“บิ๊กเด่น” สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญา 4 ตำรวจเอี่ยวอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนแบบวีไอพีตั้งแต่ไปรับถึงเครื่อง พาผ่านด่าน ตม. รับกระเป๋า และพาขึ้นรถตำรวจมีรถนำขบวนจนไปถึงพัทยา พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาปัญหา วางมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก วางกฎเหล็กถ้าพบลูกน้องทำผิดผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย

กรณีตำรวจรับจ๊อบอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว รอรับตั้งแต่ลงจากเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพาผ่านด่าน ตม. รับกระเป๋า พร้อมพาขึ้นรถตำรวจมีรถนำไปส่งถึงพัทยาอย่างรวดเร็วจนถูกสอบกราวรูด ความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ม.ค. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวว่า หลังจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการด่วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ให้จเรตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าว เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 (บก.ทท.1) จำนวน 2 นาย กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) จำนวน 2 นาย ใช้รถส่วนตัวติดสัญญาณไฟวับวาบและเครื่องหมายโล่เขนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดอาญา และมีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เป็นข้าราชการตำรวจต่างสังกัดร่วมกันกระทำความผิด

โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ผบ.ตร.มีคำสั่งที่ 68/2566 ลงวันที่ 27 ม.ค.2566 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนการดำเนินการทางอาญาส่งเรื่องให้ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินการอีกส่วนหนึ่งแล้ว พร้อมทั้งให้ต้นสังกัดสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำ ศปก. พ้นจากหน้าที่เดิม เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ ผบ.ตร.มีคำสั่งที่ 69/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค.2566แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมสภาพปัญหา ศึกษาวิเคราะห์ระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (รอง จตช.) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกับตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง แล้วรายงานผลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

...

“ทั้งนี้จะเห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอย่างจริงจังและรวดเร็วในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งการดำเนินการทางอาญาและวินัยกับตำรวจที่กระทำความผิด พร้อมวางมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำของบุคคล ส่วนไหนที่ไม่ดีต้องลงโทษแก้ไข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ต่อไปจะวางมาตรการกำกับดูแลป้องกันแบบเข้มข้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากเกิดขึ้นนอกจากตัวตำรวจแล้ว ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย” พล.ต.ต.อาชยนกล่าว

สำหรับรายชื่อตำรวจที่ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและถูกดำเนินคดีอาญา ประกอบด้วย ร.ต.อ.สมพล ภิญโญสโมสร รอง สว.กก.3 บก.ทท.1 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) ด.ต.ขจรศักดิ์ แผ่นผา ผบ.หมู่ กก.3 บก.ทท.1 ส.ต.อ.นกร นุกูลธนกิจ ผบ.หมู่งาน 1 กก.บก.จร. และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ ผบ.หมู่งาน 1 กก.บก.จร.

ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญาตำรวจทั้ง 4 นายตามคำสั่ง ตร. ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.พิจิตร อังศุภานิช ผกก. (สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หรือใครมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ บก.จร. หลังปรากฏภาพในคลิปฉาวบริการนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ขี่รถ จยย.นำขบวนและนั่งรถยนต์ตำรวจไปส่งถึงโรงแรมที่พักในพัทยา มีเพียงหนังสือแจ้งมาเกี่ยวกับการที่ใช้รถยนต์และรถ จยย.ส่วนตัว นำไซเรนและเครื่องหมายราชการมาติดรถเพื่อใช้นำขบวน