ฟ้าดินไม่อาจขวางกั้น หนุ่มเบลเยียมหนีบ้านเกิดมาพักใจ ดันตกหลุมรักหนุ่มไทยจนถอนตัวไม่ขึ้น ยอมทิ้งทุกอย่างไม่จากไปไหน ขอใช้ชีวิตบั้นปลายกับความรักครั้งสุดท้ายไปด้วยกัน
วันที่ 23 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสิงห์บุรี ว่าบังเอิญพบ ชายชาวต่างชาติเดินเก็บขวดขยะ อยู่ริมถนนสายเอเชีย ทราบชื่อคือนายวิลลี่ อายุ 61 ปี สัญชาติเบลเยียม เปิดเผยว่า เดินทางมาอยู่ที่เมืองไทยนานถึง 6 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ ไม่มีภรรยา แต่มีแฟนหนุ่ม ซึ่งขณะนี้กำลังทำงานอยู่ในป่า ห่างจากจุดที่ยืนสนทนา ประมาณ 200 เมตร
จากนั้นก็พาเดินเข้าไปในป่าพบชายหญิงจำนวน 4 คน กำลังช่วยกันกวาดใบก้ามปูบรรจุใส่ถุงปุ๋ย เมื่อเข้าไปสอบถาม พบว่าทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน อาศัยอยู่ที่ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี มีอาชีพเก็บใบก้ามปู ส่งขายให้โรงงานผลิตปุ๋ย ในราคาถุงละ 35 บาท โดยลูกชาย คือ นายเชิดศักดิ์ เชื้อสุวรรณ อายุ 32 ปี คือคนรักของนายวิลลี่ หนุ่มใหญ่ชาวเบลเยียม
...
นายเชิดศักดิ์ เผยว่า ตนเองรู้จักและอยู่กับนายวิลลี่มาเป็นเวลานาน 3 ปีแล้ว โดยรู้จักกันครั้งแรก เมื่อตอนที่ตนไปทำงานที่พัทยา เมื่อย้ายกลับมาอยู่บ้าน นายวิลลี่ก็ติดตามมาอยู่ด้วย นายวิลลี่ถูกครอบครัว ซึ่งทำธุรกิจเป็นบริษัททัวร์กดดันอย่างหนัก เพราะอยากให้ลูกชายเป็นผู้ดูแลกิจการ และไม่ต้องการให้เป็นเกย์ จึงต้องแต่งงานกับผู้หญิงเบลเยียม และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ต่อมาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว นายวิลลี่ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยกระทั่งได้พบรักกับตน ก็ยังไม่เคยกลับไปที่เบลเยียมอีกเลย
ด้านนายพิง พ่อของนายเชิดศักดิ์ กล่าวชื่นชมว่า นายวิลลี่เป็นคนขยัน รักความสะอาด เรียบร้อย ทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งซักผ้า ล้างจาน ถูบ้าน ที่สำคัญชอบเดินตามริมถนน เพื่อเก็บขวดและขยะมาสะสมไว้ ก่อนจะนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ทำเช่นนี้เป็นประจำ จนชาวบ้านในพื้นที่รู้จักกันดี ลูกชายเคยห้ามไม่ให้ไปเดินเก็บ เพราะรู้สึกอับอาย แต่นายวิลลี่ก็ไม่ฟัง ยังคงปฏิบัติเช่นนี้ตลอดมา ส่วนเงินที่ได้จากการขายขวดแต่ละครั้ง ประมาณ 1,000 บาท เขาก็จะนำมาจ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟภายในครอบครัว
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่นั้น นายวิลลี่พยายามช่วยงาน โดยการนำถุงบรรจุใบไม้ใส่รถเข็น แต่ถูกด้ามจับของรถกระแทกเข้าที่ใบหน้า จนหัวคิ้วแตกเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ทั้งครอบครัวต้องช่วยกันห้ามเลือดกันอยู่พักใหญ่สุดท้ายเลือดก็หยุดไหล กลายเป็นภาพและเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น.