ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Novazzi F และคณะจากประเทศอิตาลี ได้เผยแพร่ผลการวิเคราะห์สายพันธุ์ไวรัสโควิด–19 ที่ตรวจพบในกลุ่มคนที่เดินทางจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศอิตาลีในช่วงเดือนธันวาคม 2565 เผยแพร่ในวารสารระดับสากล Eurosurveillance

สาระสำคัญมีว่า...จากการตรวจที่สนามบินกรุงมิลาน วันที่ 26 ธันวาคม 2565 พบว่าอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อในผู้โดยสารมีตั้งแต่ 19-42% ในขณะที่การตรวจที่สนามบินกรุงโรม วันที่ 29 ธันวาคม 2565 มีอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อในผู้โดยสารตั้งแต่ 11-14%

ทั้งนี้ สายพันธุ์ที่ตรวจพบส่วนใหญ่เป็น BA.5.2.48, BF.7.14 รวมถึงมี BQ.1.1 และอื่นๆด้วย

ในขณะที่ข้อมูลสายพันธุ์จาก GISAID ที่ทางประเทศจีนได้นำส่งตั้งแต่กันยายน 2565 ถึง 11 มกราคม 2566 นั้น ก็สะท้อนให้เห็นการกระจายของสายพันธุ์ย่อยต่างๆในแต่ละพื้นที่ โดยยังมี BF.7.14 และ BA.5.2.48 เป็นหลัก แต่บางพื้นที่ก็มีสายพันธุ์อื่นในสัดส่วนที่สูงและมีความหลากหลายเช่นกัน เช่น เซี่ยงไฮ้

จุดยืนสู้โควิด-19 ป่วยได้ แต่ห้ามตาย

สำหรับ “ประเทศไทย” เรานั้น การปะทุขึ้นมานั้นจะเป็นไปได้แน่นอน หากมีกิจกรรมเสี่ยงเพิ่มขึ้น...มีการเดินทางระหว่างประเทศโดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้ามามากขึ้น

...

ดังนั้น การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่ออกไปใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านจึงมีความสำคัญ...ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง มีสติ ไม่ควรประมาท

“การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก”

อัปเดตเรื่องโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.5

องค์การอนามัยโลกได้เผยแพร่ข้อมูลประเมินความเสี่ยงของการระบาดจาก XBB.1.5 มีรายงานการตรวจพบทั่วโลก 38 ประเทศ นับตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2565 ถึง 11 มกราคม 2566 ประเทศที่ส่งรายงานการตรวจพบมากสามอันดับแรกคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก

อัตราการขยายตัวของการระบาดในสหรัฐอเมริกานั้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากสัปดาห์ละ 1% (ณ สัปดาห์ที่ 47) เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 8% (ณ สัปดาห์ที่ 50) ภายในสามสัปดาห์ และมีการแพร่ระบาดมากแถบตะวันออกเฉียงเหนือ

จุดยืนสู้โควิด-19 ป่วยได้ แต่ห้ามตาย

ประเด็นสำคัญมีว่า...สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 นี้ เป็นลูกหลานในตระกูล XBB ซึ่งข้อมูลปัจจุบันชี้ชัดว่าดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุดในทุกสายพันธุ์ของโควิด-19 ที่เคยมีมา

โดย XBB.1.5 นั้นดื้อเทียบเท่ากับสายพันธุ์ XBB.1

ในแง่ความรุนแรงของโรคนั้น ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าจะรุนแรงกว่า “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อยอื่นๆที่ระบาดอยู่หรือไม่?...องค์การอนามัยโลกประเมินว่า สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 นี้มีแนวโน้มที่จะระบาดมากขึ้นทั่วโลกได้ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด

ในขณะเดียวกันข้อมูลจาก Wenseleers T จากเบลเยียม และ Gerstung M จากเยอรมนี ก็ได้ทำการประเมินสมรรถนะการขยายตัวของการระบาดจาก XBB.1.5 ในทวีปต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบกัน พบว่าปัจจุบัน XBB.1.5 มีอัตราการขยายตัวของการระบาดมากในทวีปอเมริกาเหนือ และยุโรป

แต่ทวีปอื่นๆ ก็ยังพบการเพิ่มขึ้นในบางประเทศไม่มากนัก

สำหรับ “คนไทย” เราควรระลึก วิเคราะห์ เรียนรู้จากบทเรียนในรอบสองปีกว่าที่ผ่านมาที่เกิดการติดเชื้อ ป่วย และเกิดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจำนวนมาก

สัจธรรมที่เห็นคือ การจะปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตได้ จำเป็นต้องมีความรู้เท่าทันสถานการณ์ รับรู้รับทราบข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องและทันต่อเวลา เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ...ทำในสิ่งที่ควรทำ และควรหาทางช่วยกันจัดการ

ป้องกันไม่ให้ “รากเหง้าสาเหตุ” ของความสูญเสียในอดีตกลับมาทำให้เกิดปัญหาในอนาคต สำคัญที่สุดคือ ความมีสติ ใส่ใจสุขภาพ ป้องกันตัวสม่ำเสมอ ไม่ประมาท...ระมัดระวังกิจกรรมและสถานที่เสี่ยง แออัด คลุกคลีใกล้ชิดเป็นเวลานาน ระบายอากาศไม่ดี

ตอกย้ำไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง นั่นก็คือการไปรับ “วัคซีนเข็มกระตุ้น” ให้ครบตามกำหนดจะช่วยลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ “ลองโควิด” ได้

จุดยืนสู้โควิด-19 ป่วยได้ แต่ห้ามตาย

...

จุดยืนสู้โควิด-19 ป่วยได้ แต่ห้ามตาย

หัวใจสำคัญคือการใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ระหว่างใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ แพร่เชื้อลงไปได้มาก

เสริมเติมความรู้ “โควิด–19” หนึ่ง...การฉีดเข็มกระตุ้นด้วย mRNA-1273 (Moderna) ดูจะกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า BNT162b2 (Pfizer/Biontech) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่สูงอายุ หรือภูมิคุ้มกันไม่ดี

สอง...คนที่ติดเชื้อ แต่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนจะลดโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ราว 22% สาม...คนที่ติดเชื้อ แต่เคยติดเชื้อมาก่อน จะลดโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ราว 23% สี่...คนที่ติดเชื้อ โดยเคยได้รับวัคซีน และเคยติดเชื้อมาก่อน จะลดโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ราว 40%

ห้า...การใส่หน้ากากเสมอเวลาเดินทางโดยเครื่องบินระมัดระวังเรื่องการกินดื่มขณะเดินทางและการทำความสะอาดสุขภัณฑ์ในเครื่องบินจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 เพราะล่าสุดมีผลสำรวจจากมาเลเซีย พบว่าตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินมากถึง 28/29 ลำ

หก...มาตรการใส่หน้ากากในโรงเรียน ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างชัดเจน

...

จุดยืนสู้โควิด-19 ป่วยได้ แต่ห้ามตาย

ถึงตรงนี้ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ บอกอีกว่า ความรู้วิชาการแพทย์จนถึงวินาทีนี้ ยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน Bivalent กระตุ้นภูมิได้ดีกว่าวัคซีนรุ่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายพันธุ์ย่อยที่ทั่วโลกกังวล และกำลังระบาดมาก จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ประชาชนควรตั้งคำถาม และตรวจสอบกระบวนการที่ดำเนินการ...

“เพราะ...ปัจจุบันความเสี่ยงสูงขึ้นมากจากนโยบายรับนักท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาวุธป้องกัน จึงจำเป็นต้องพัฒนา...มิใช่รอจนเกิดปัญหาแล้วให้ทุกคนหาทางรอดเอง ดังเช่นประสบการณ์ในอดีต”

“Save who can be saved”...นี่คือจุดยืนที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนนั้น เป็นไปตามการเลือกตัดสินใจเชื่อและปฏิบัติตัวของแต่ละคนทั้งสิ้น ย้ำอีกครั้งว่า...ขอให้มีสติ ใช้ปัญญา ไตร่ตรองข้อมูลความรู้ที่ตรวจสอบและพิสูจน์ได้

“หากดำเนินชีวิตโดยหลงไปกับกิเลส ความเชื่องมงาย ความเสี่ยงต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

เหนืออื่นใด ขอให้ดูบทเรียนความสูญเสียในรอบหลายปีที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้น และเพราะเหตุใด ควรป้องกันไม่ให้รากเหง้าสาเหตุเหล่านั้นทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นมาอีก”.

...