การเป็นคนแก่หลงหลานอย่างผมก็ดีไปอย่างครับ เพราะทำให้ต้องหาเหตุแวะไปรับหลานที่โรงเรียนสัปดาห์ละหนหรือสองหนอยู่เสมอๆ

หลานสาวคนโตของผมอายุ 8 ขวบ กำลังเรียนชั้นประถม 3 ส่วนเจ้าคนเล็กเป็นหลานชายอายุ 4 ขวบ เรียนอยู่อนุบาล 2 ที่โรงเรียนราษฎร์แห่งหนึ่งแถวๆถนนพัฒนาการ

2-3 สัปดาห์มานี้ผมแวะไปรับหลานเช่นเคย และรู้สึกแปลกใจมากที่จู่ๆก็ได้ยินเด็กร้องประสานเสียงและโยกตัวร้องเพลงเพลงหนึ่งกันแทบทั้งโรงเรียนตอนเลิกแล้ว และกำลังรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน

มีอยู่ท่อนหนึ่งเด็กๆจะเปล่งเสียงแบบคอรัสจับความได้ว่า “ทรงอย่างแบด...แซดอย่างบ่อย” ดังสนั่นหวั่นไหว

ได้ยินกลุ่มนี้ร้องนึกว่าเพียงแค่นั้น...พอเดินไปอีกหน่อยก็จะได้ยินอีกกลุ่มร้อง “ทรงอย่างแบด...แซดอย่างบ่อย” เช่นกัน

กลับถึงบ้านผมรีบเข้ากูเกิลค้นหาเป็นการใหญ่ว่า เจ้าเพลง “ทรงอย่างแบด” นี่มันอะไร? ดังมาจากไหน? ทำไมเด็กๆ ถึงร้องกันทั้งโรงเรียนและพอกดเข้าไปก็เจอะเจอข่าวคราวและสารคดีต่างๆที่เกี่ยวข้องยาวเหยียด

ทำให้ทราบว่าเพลงเพลงนี้เป็นของวง Paper Planes แต่งเนื้อร้องและทำนองโดย “ฮาย” หรือ ธันวา เกตุสุวรรณ

คำว่า แบดก็มาจาก Bad ในภาษาอังกฤษ ซึ่งควรจะต้องอ่านออกเสียงว่า “แบ้ด” ใส่ไม้โทเข้าไปด้วย...แต่เพราะหลักภาษาไทยเขาห้ามใส่วรรณยุกต์หรือใส่ไม้เอกไม้โทไม้ตรีลงในคำที่มาจากภาษาฝรั่ง... Bad จึงกลายเป็น แบด เวลาเขียนหรือพิมพ์

จากข่าวในกูเกิลนั่นแหละทำให้ผมทราบว่า เพลงนี้ไม่ใช่ฮิตเฉพาะโรงเรียนหลานผมเท่านั้น แต่ฮิตไปทั่วทุกโรงเรียนทั่วประเทศไทย

เวลาวง เปเปอร์ เพลนส์ ซึ่งเป็นวงร็อกไปแสดงสดที่ไหนจะมีเด็กๆตามไปดูเป็นพรวน และบ่อยครั้งจะเป็นเด็กอนุบาลอายุ 3-4 ขวบ ที่พ่อแม่กระเตงไปฟังด้วย และร่วมร้องไปกับวงด้วย

...

โดยเฉพาะท่อน “ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย” เสียงประสานจากเด็กๆจะดังกว่านักร้องเสียด้วยซ้ำ

ทำให้นักร้องของวงที่มีอยู่ 2 คน คือ “ฮาย” หรือ ธันวา เกตุสุวรรณ และ “เซน” หรือ นครินทร์ ขุนภักดี ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า “หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม” ไปเรียบร้อย

และเพลง “ทรงอย่างแบด” ก็กลายเป็น “เพลงชาติ” ของเด็กอนุบาลหรือวัยรุ่นฟันน้ำนมไปเรียบร้อยเช่นกัน...ปล่อยเพลงมาประมาณ 2 เดือนยอดวิวขณะนี้กว่า 44 ล้านวิว

เมื่อ 2 วันก่อนทั้ง “ฮาย” และ “เซน” ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า นึกไม่ถึงเพลงนี้จะกลายเป็นเพลงฮิตของเด็กๆ เพราะตั้งใจจะแต่งให้วัยรุ่น ขึ้นไปถึงมหาวิทยาลัยมากกว่า

เมื่อกลายเป็นเพลงฮิตของเด็กไปแล้วอย่างนี้ก็ต้องระวัง...ว่าเพลงจะไปทำลายหรือทำร้ายอะไรเด็กๆทั้งทางตรงหรือทางอ้อมบ้างหรือไม่?

ถึงขนาดต้องกลับไปดูเนื้อร้องต่างๆ ดูแล้วก็โล่งใจว่าไม่มีคำหยาบ หรือข้อความในทางเสื่อมเสียแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันก็ทำให้เขาทั้ง 2 คนจะต้องระวังตัว เพราะเมื่อกลายเป็นไอดอลของเด็กขึ้นมาแล้ว เดี๋ยวเด็กๆก็จะเอาอย่าง

ดังนั้น จะกินเหล้า จะสูบบุหรี่ จะกินกาแฟ เขาจึงต้องระวัง ไม่ต้องการให้เด็กๆเห็น เพราะยังแยกแยะไม่ถูกว่าอะไรควรไม่ควร

ฟังแล้วก็ทึ่งและอดชื่นชมเสียมิได้ ในความคิดอันประเสริฐของเด็กหนุ่มนักร้องเพลงร็อก 2 คนนี้

เขายังมอบคำขวัญวันเด็กมาให้เด็กๆด้วย ไม่ได้ตั้งใจจะแข่งกับบิ๊กตู่ แท้ที่จริงแล้วสนับสนุนบิ๊กตู่ด้วยซ้ำ เพราะเป็นคำขวัญที่อยากให้เด็กๆคิดดีทำดีเช่นกัน...ดังนี้ครับ

สร้างสรรค์ความคิด ผูกมิตรซื่อตรง ก้าวอย่างมั่นคง ฟัง “ทรงอย่างแบด”

บอกแล้วไงว่าเป็นคำขวัญวันเด็กที่เท่มาก ท่องของบิ๊กตู่ปีนี้ที่ว่า “รู้หน้าที่มีวินัยใฝ่ความดี” ควบคู่ไปด้วย รับรองหนูๆจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพของประเทศไทยอย่างแน่นอน

เอ้าร้องเพลง “ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย” กันซะอีกคนละจบ... จากนั้นก็ออกไปเที่ยวงานวันเด็กกันให้สนุกๆนะจ๊ะเด็กๆ.

“ซูม”