ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเรื่องเข้ามาถือหุ้นของทุนจากต่างประเทศในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ซึ่งปัจจุบันมี 3 มหาวิทยาลัยที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมีต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นโดยมีผู้บริหารและกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่เป็นชาวจีน คือ 1.ม.เกริก 2.ม.เมธารัถย์ และ 3.ม.นานาชาติแสตมฟอร์ด แต่สัดส่วนการถือครองหุ้นยังคงเป็นนิติบุคคลสถานะไทย ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ซึ่งตามกฎหมายไทย สถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย นายกสภามหาวิทยาลัย และอธิการบดี สามารถเป็นต่างชาติได้ แต่กรรมการสภามหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งต้องเป็นคนไทย

รองปลัด อว.กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ม.เกริก ทั้งนายกสภาและอธิการบดีเป็นคนไทย มีกรรมการสภาเป็นชาวจีนประมาณ 17% ม.เมธารัถย์ ทั้งนายกสภาและอธิการบดีเป็นชาวจีน กรรมการสภาเป็นชาวจีน ประมาณ 40% ขณะที่ ม.นานาชาติแสตมฟอร์ด เดิมผู้ถือหุ้นเป็นชาวสิงคโปร์ แต่ได้เปลี่ยนเป็นชาวจีน มีนายกสภาเป็นชาวจีน อธิการบดีเป็นคนไทย และมีกรรมการสภาเป็นชาวจีนประมาณ 40% ทั้งนี้ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนทุกแห่งซึ่งได้รับมอบหมายให้จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาแทนภาครัฐต้องได้รับการรับรองวิทยฐานะใน 2 ระดับ โดยมีวงรอบ 5 ปี ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงการขอให้รับรองและการรับรองวิทยฐานะสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2558 ได้แก่ 1.ระดับสถาบันจะพิจารณาผลการดำเนินงานในระดับหลักสูตรด้านการกำกับมาตรฐาน และองค์ประกอบอื่นๆ นอกจากนี้ยังพิจารณามาตรฐานศักยภาพและความพร้อมในการจัดการศึกษา และ 2.ระดับหลักสูตร จะพิจารณาจากการจัดการศึกษาที่สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตระดับอุดมศึกษา

ศ.ดร.ศุภชัยกล่าวอีกว่า สำหรับการรับรองวิทยฐานะสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 3 แห่งข้างต้น ม.เกริก และ ม.แสตมฟอร์ดได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 14 พ.ย.2561 ถึงวันที่ 13 พ.ย.2566 ส่วน ม.เมธารัถย์ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการรับรองวิทยฐานะของ อว. อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือผู้บริหาร ก็ต้องถูกกำกับควบคุมภายใต้ พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน และ พ.ร.บ.การอุดมศึกษา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันอุดมศึกษาเอกชนของไทยอย่างเคร่งครัด มีคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา (กมอ.) และสำนักปลัด อว. เป็นผู้กำกับดูแล.

...