ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวหลังเป็นประธานลงนามความร่วมมือ “การขับเคลื่อนแนวพระราชดำริด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม” ระหว่าง 3 หน่วยงานภายใต้ อว. ได้แก่ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่า เป็นความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 2 ด้าน คือ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชน และโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ (การจัดการปัญหาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนกับช้างป่า) ด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ซึ่งจะต้องร่วมขับเคลื่อนตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างกลไกการดำเนินงานให้เอื้อต่อการทำงาน
“เมื่อก่อนช้างป่าแทบจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับเสือ แต่เมื่อช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ดังที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้พวกเราได้เห็นอย่างต่อเนื่อง ช้างป่าในประเทศก็กลับเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อื่นๆด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ทำให้พื้นที่ป่าเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่วนปัญหาที่เกิดผลกระทบกับชาวบ้าน เราหาทางจัดการปัญหาเพื่อให้คนกับช้างอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล พร้อมจัดหาแหล่งน้ำชุมชนให้มีน้ำกินน้ำใช้พอเพียง ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” ศ.ดร.เอนกกล่าวด้าน ดร.สุทัศน์ วีสกุล ผอ.สสน. กล่าวว่า สสน.พร้อมส่งเสริม สนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง น้ำท่วมและจากช้างป่า
...
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.NIA กล่าวว่า NIA จะนำนวัตกรรมมาช่วยสร้างสรรค์ทางเลือกใหม่สำหรับการแก้ไขปัญหาภายใต้โครงการระบบจัดการปัญหาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนกับช้างป่า และโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อให้ชุมชนวางแผนการเพาะปลูกด้วยตนเองเพื่อเพิ่มผลผลิต และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน.