ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานวิชาการและกิจกรรม สังคม ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปในโซเชียลมีเดียที่มีการนำเส้นผมมาแหย่ท่อน้ำตาเพื่อแก้ปัญหาท่อน้ำตาอุดตันว่า จริงๆเป็นวิธีที่คนสมัยก่อนทำกัน แต่ปัจจุบันไม่แนะนำ เนื่องจากเส้นผมไม่สะอาด การนำไปแยงมีโอกาสติดเชื้อง่าย หากแยงลงไปถึงโพรงจมูก อาจทำให้อักเสบและติดเชื้อบริเวณท่อระบายน้ำตาลงไปถึงโพรงจมูกได้ การนำสิ่งแปลกปลอมไปแยงดวงตามีโอกาสสูงให้เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดความเสียหาย เช่น เป็นแผลบริเวณกระจกตาดำ เยื่อบุตา หรือท่อระบายน้ำตา

ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัยกล่าวว่า ท่อน้ำตามีขนาดเล็กมาก 1 ใน 4 มิลลิเมตร การเกิดท่อน้ำตาตีบหรืออุดตันปกติเกิดใน 2 ช่วงอายุ คือ เด็กแรกเกิด พบได้ 4-5% ทำให้เด็กมีน้ำตาคลอ หรือไหลข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง เป็นได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน อีกกลุ่มคือผู้สูงอายุ 60-70 ปี ขึ้นไป เนื่องจากเวลาผ่านไปนานจะมีหินปูนมาเกาะทำให้ตีบหรือตันได้ พบ 7-8% การรักษาในผู้สูงอายุจักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือล้างทดสอบดูว่าท่อระบายน้ำตาตันหรือไม่ หากตันอาจขยายท่อน้ำตาให้ หรือหากจำเป็นต้องผ่าตัดก็จะผ่าตัด กรณีเด็กแรกเกิดถ้าอายุ 1 ขวบยังไม่หายก็สามารถแยงท่อน้ำตาโดยใช้เส้นลวดทางการแพทย์ ดำเนินโดยจักษุแพทย์ หากมีอาการสงสัยเกี่ยวกับดวงตาควรไปพบจักษุแพทย์.