ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลจากหญิง รายหนึ่งถึงการกินค้างคาว ทำให้ประชาชนแสดงความห่วงใยว่าจะเกิดการระบาดของโรคแปลกๆ ว่า ค้างคาวมีไวรัสจำนวนมาก เช่น ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีโบลา (Ebola) ไวรัสนิปาห์ (Nipah virus) ทำให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ รวมถึงไวรัสโคโรนา (Corona virus) ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ได้ด้วย และอีกหลายตัว ดังนั้นไม่ควรไปสัมผัสกับค้างคาวและไม่แนะนำให้กินสัตว์ป่าทุกชนิด เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัส

ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่ควรรับประทานค้างคาว เนื่องจากค้างคาวเป็นสัตว์ป่าและปกติมีโซน่าในตัว และการติดเชื้อจากค้างคาวก็เหมือนกับการติดเชื้อไข้หวัดนกที่ไม่ได้เป็นการติดเชื้อจากการรับประทาน แต่เป็นการติดเชื้อระหว่างการปรุงมากกว่า เพราะขั้นตอนการปรุงต้องจับถอนขน สัมผัสสารคัดหลั่ง เสี่ยงที่จะได้รับเชื้อซึ่งเคยเกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย และมีคนเสียชีวิต.