นายธีรพล ขุนเมือง อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทรส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่าจุดเน้นของ มทรส.มีการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพและเทคโนโลยีชั้นสูง ให้มีสมรรถนะในการเป็นผู้ประกอบการและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และทิศทางการพัฒนาของประเทศ โดยเน้นเรียนทฤษฎีควบคู่การปฏิบัติอย่างเข้มข้นในรูปแบบของ "สหกิจศึกษา" เพื่อให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ เรียนจบสามารถทำงานได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงอุตสาหกรรมปัจจุบันได้นำหุ่นยนต์มาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงานและลดต้นทุนการผลิต มทรส.โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ จึงร่วมมือกับภาคเอกชนจัดการแข่งขัน “Cobot Contest Thailand 2022” ขึ้น เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์ได้ร่วมกันสร้างโปรแกรมเพื่อควบคุมหุ่นยนต์เป็นการเสริมทักษะให้แก่นักศึกษา ในระหว่างการเรียน ให้มีความรู้ในเชิงปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
ผศ.พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การแข่งขันครั้งนี้ได้ร่วมกับ บริษัท เอบีบี (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท ยูเอสอี.โฟล-ไลน์ จำกัด จัดการแข่งขัน “Cobot Contest Thailand 2022” ระหว่าง วันที่ 27-28 ตุลาคม 2565 ณ หอประชุมพระพิรุณระลึกโปรดเกล้าฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นกิจกรรมการแข่งขันให้นักศึกษาได้แสดงความรู้ ความสามารถในการใช้ทักษะ เขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมหุ่นยนต์ Cobot (Collaborative robot) หรือ หุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อทำหน้าที่ร่วมกับมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยุคใหม่ ให้สามารถทำภารกิจต่างๆ ที่กำหนดได้ เช่น การคัดแยกสินค้า การจัดเรียงสินค้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ เป็นต้น โดยขณะนี้มีทีมที่สมัครแล้วทั้งสิ้น จำนวน 60 ทีม ทีมละ 4 คน (อาจารย์ 1 คน นักศึกษา 3 คน) และผ่านรอบการคัดเลือกเพื่อเข้าชิงชนะเลิศจำนวน 36 ทีม จากสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการฝึกอบรมก่อนการแข่งขันให้ความรู้ทางด้านหุ่นยนต์ Cobot ก่อน เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ สำหรับรางวัลทีมที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศอันดับที่ 1 และ 2 มีมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล โดยทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันจะได้ไปศึกษาดูงานโรงงานผลิตหุ่นยนต์ ABB ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Shanghai factory in 2023) เพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีมาพัฒนาอุตสาหกรรม และภาคการศึกษาในประเทศ ต่อไปด้วย จึงขอเชิญชวนผู้สนใจ ร่วมชม เชียร์ และให้กำลังใจนักศึกษาได้ตามวันและสถานที่ข้างต้น