สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ NIA เปิดตัวสตาร์ทอัพด้านเทคโลยีอวกาศ 15 รายจากโครงการ “Space Economy : Lifting Off 2022” ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการปั้นสตาร์ทอัพเข้าสู่ภาคธุรกิจในปีที่ผ่านมา ในปีนี้สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการครอบคลุมเทคโนโลยีอวกาศในหลากหลายสาขาทั้งกลุ่ม Upstream เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาดาวเทียมและระบบสนับบสนุน กลุ่ม Downstream การใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากอวกาศ และกลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ยังเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเข้าร่วมโครงการด้วย โดยปีนี้มีสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 15 บริษัท แบ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีระดับ TRL 4-9 จำนวน 10 ทีม และ TRL 1-3 จำนวน 5 ทีม
โครงการ Space Economy: Lifting Off 2022 เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกับภาคีความร่วมมืออวกาศไทยเพื่อผลักดันเศรษฐกิจอวกาศให้เกิดขึ้น ด้วยการพัฒนาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีอวกาศให้มีบทบาทและสามารถเติบโตได้ในอุตสาหกรรมอวกาศ โดยได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่ง NIA ได้เฟ้นหาบริษัทสตาร์ทอัพที่มีความสนใจหรืออยู่ในธุรกิจอวกาศของประเทศไทย เพื่อเข้ามาร่วมโครงการบ่มเพาะและพัฒนาในรูปแบบของการร่วมรังสรรค์เพื่อปูทางไปสู่การสร้างเศรษฐกิจอวกาศให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ NIA ได้กล่าวในงานนำเสนอผลงาน (Demo Day) ว่า “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจอวกาศ คือการพัฒนาให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ การสร้างผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้านเศรษฐกิจอวกาศเข้าสู่ภาคธุรกิจ จะนำไปสู่การสร้างซัพพลายเชนของผู้พัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมอวกาศให้เกิดขึ้นในประเทศ เป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศและเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมมูลค่าสูง การสร้างสตาร์ทอัพอวกาศของ NIA คือการตอบรับกับยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องการผลักดันเทคโนโลยีและกิจการด้านอวกาศ ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีและสามารถเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรมอวกาศโลกที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น การสนับสนุนให้เกิดการเทคโนโลยีอวกาศให้เกิดขึ้นในประเทศคือโอกาสต่อยอด
อุตสาหกรรม New S Curve และจะมีส่วนสำคัญในการทำให้อุตสากรรมเกี่ยวเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมศักยภาพสูงของประเทศมีการเติบโตได้เช่นกัน”
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้ NIA ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาคีความร่วมมืออวกาศไทยและหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยโครงการนี้ถือเป็นการนำร่องที่จะพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพด้านเศรษฐกิจอวกาศให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม การนำเสนอผลงานของสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีมได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เข้าร่วมงานเกือบ 100 คนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์กรธุรกิจชั้นนำ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับกิจการอวกาศ ผู้ประกอบการ และ นักลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในธุรกิจด้าน Deep Tech
โดยผู้ที่ได้รับรางวัลสำหรับกลุ่มกลุ่มเทคโนโลยี TRL 1-3 มีผู้ได้รับรางวัลคะแนนสูงสุดจากกรรมการจำนวน 3 รางวัล ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Solutions Maker
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม LINK Application
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม Advance Space Composite
สำหรับกลุ่มเทคโนโลยี TRL 4-9 มีผู้ได้รับรางวัลคะแนนสูงสุดจากกรรมการ จำนวน 3 รางวัล ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ทีม Gao Rai
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม Intech
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม VAAM
นอกจากนั้น ยังมีรางวัลป๊อปปูลาร์ โหวตอีก 1 ตัดสินโดยผู้เข้าชมเป็นผู้ร่วมให้คะแนน และทีมที่ได้รับรางวัลป๊อปปูลาร์ โหวต ได้แก่ SpaceDox
โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ สำหรับ TRL ทั้ง 2 ประเภท รวมถึงรางวัลป๊อปปูลาร์ โหวต จะได้นำผลงานไปแสดงในงาน Startup x Innovation Thailand 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) อีกด้วย
รายชื่อทีมสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีมในโครงการ Space Economy : Lifting Off 2022
เทคโนโลยีระดับ TRL 4-9 ทีม
1. Centro Vision – ระบบวิเคราะห์พื้นที่ทางการเกษตรด้วยการใช้โดรนตรวจสอบและข้อมูลเชิงลึกจากภาพถ่ายดาวเทียม
2. ฟาร์มดีมีสุข พลัส - แพลตฟอร์มครบวงจรเพื่อเกษตรกร สำหรับคาดการณ์ผลผลิต สถานะพืช วิธีจัดการการเพาะปลูก ด้วยภาพถ่ายดาวเทียม
3. Gao Rai - ระบบปฏิบัติการเทคโนโลยีการเกษตรที่เชื่อมต่อเกษตรกรกับนักขับโดรนรับจ้างเพื่อการเกษตร
4. Intech - แอปพลิเคชันครบวงจร เพื่อการเกษตร โดยใช้ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม
5. Manee Lab - ชุดซอฟต์แวร์ระบบย่อย (IP core) สำหรับสร้างอุปกรณ์ที่ใช้บนยานอวกาศ
6. Mush Composite - วัสดุก่อสร้างทำจากเห็ด มีคุณสมบัติน้ำหนักเบา ทนไฟ มีความทนทาน
7. SpaceDox - ระบบ space traffic management ตรวจสอบและติดตามดาวเทียม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุดาวเทียมชนกันในชั้นบรรยากาศ
8. TemSys - ชุดฝึกการเรียนรู้ระบบรับส่งสัญญาณจากดาวเทียม เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากขึ้น
9. Teveda Corp - ระบบตรวจวัดปริมาณก๊าซคาร์บอน ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมและระบบ AI
10. VAAM - จานรับสัญญาณดาวเทียมระบบ 3 แกน ขนาด 6 เมตร
เทคโนโลยีระดับ TRL 1-3 จำนวน 5 ทีม
11. Advance Space Composite - สารเคลือบ เพื่อป้องกัน tin whisker บน PCB board หรือขั้ว d-sub
12. Link Application - แพลตฟอร์มวิเคราะห์ศักยภาพของพื้นที่เกษตรกรรม สำหรับสถาบันการเงินนำไปวิเคราะห์เพื่อปล่อยสินเชื่อ
13. Premium Robotics - แขนหุ่นยนต์ที่มีความยืดหยุ่นสูง มีความปลอดภัย เหมาะกับงานบนอวกาศ
14. Semi-Latus Rectum – บริการบนชั้นอวกาศเพื่อซ่อมแซม บำรุงรักษา เปลี่ยนอะไหล่ เติมเชื้อเพลิงดาวเทียม เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งาน
15. Solutions Maker - อุปกรณ์รับเวลาที่มีความแม่นยำสูง