ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผอ.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า สวทช.ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีที่มีความพร้อมไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยผลักดันการนำผลงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์ ผ่านระบบบัญชีนวัตกรรมไทย ซึ่งทำให้ผลงานวิจัยมีช่องทางนำไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงานภาครัฐที่เป็นตลาดใหญ่สุดในปัจจุบันและทำงานร่วมกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ทำมาตรฐานอุตสาหกรรมนวัตกรรม กำหนดมาตรฐานสำหรับนวัตกรรม ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นทำให้นวัตกรรมได้รับการรับรองต่อไป
ดร.ณรงค์กล่าวต่อว่า ตัวอย่างการทำงานเพื่อสนับสนุนภาคเอกชน ได้แก่ 1.การจัดตั้ง NSTDA Startup สวทช.ได้กำหนดกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อให้บุคลากร สวทช. สามารถไปถือหุ้นในบริษัทและให้บริษัทจ้าง สวทช.เข้าไปบริหารจัดการเรื่องเทคโนโลยี ด้วยกลไกนี้ทำให้บุคลากร สวทช.สามารถไปทำงานในบริษัทที่ตัวเองถือหุ้นได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นพนักงานของ สวทช. และ 2.การตั้ง NSTDA Holding สวทช. เป็นการปรับรูปแบบการลงทุนให้เป็นแพลตฟอร์ม ใน NSTDA Holding สวทช. ได้ถือหุ้น 100% มีงบประมาณในการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท มีกลไกการลงทุนแยกออกจาก สวทช. เป็นบริษัทจำกัดที่ใช้ในการลงทุน เอางานวิจัยของคนรุ่นใหม่ไปตั้งเป็นบริษัท สร้างแพลตฟอร์มในการลงทุนเพื่อที่จะเอางานวิจัยวิ่งผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ รวมทั้งมีเงินทุนจำนวนหนึ่งไปถือหุ้นในสตาร์ตอัพทั้งที่จัดตั้งเองและสตาร์ตอัพทั่วไป เป็นกลไกที่ขับเคลื่อนเชิงพาณิชย์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี NSTDA Holding สวทช.จะไปค้นหาโครงการที่น่าลงทุนและลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม จะไม่ใช้เงินจำนวนมาก แต่จะใช้เงินทุนตั้งต้นดึงให้หน่วยงานอื่นมาลงทุนร่วมต่อไป.
...