โลตัส พร้อมรับเทรนด์ใหม่ลูกค้าและเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ชูความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก New SMART Retail ที่ใช้สมาร์ทเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ เดินหน้าเสริมแกร่งช่องทางค้าปลีก omni-channel เปิดสาขาภายใต้คอนเซปต์ใหม่ มุ่งสู่การเป็น Everyday SMART Community Center และ Food Destination พร้อมปูพรมบริการออนไลน์ช็อปปิ้งจากเครือข่ายส่งสินค้าจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ทั้งส่งสินค้าแบบ on-demand และส่งสินค้าในวันถัดไป จาก 2,300 สาขาทั่วประเทศ และยังยกระดับแผนกอาหารสด เพิ่มสินค้าใหม่ สินค้าพรีเมี่ยม สินค้านำเข้า สินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น ในขณะที่ยังคงราคาที่คุ้มค่า ช่วยลูกค้าประหยัดทุกวัน
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ของเรา ทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้ปูพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อยกระดับความเป็นผู้นำ New SMART Retail ของเราที่ไปอีกขั้น เราทุ่มเทนำเทคโนโลยีที่ทรงพลังมาเชื่อมต่อสาขาของเราประมาณ 2,300 แห่งทั่วประเทศ กับแพลตฟอร์มออนไลน์ และใช้ big data ในการส่งมอบประสบการณ์และความคุ้มค่าที่ตรงใจลูกค้าแบบชาญฉลาด (intelligent personalization) ซึ่งเรามีกรอบกลยุทธ์ทั้งหมด 4 ด้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และเสริมความเป็นผู้นำค้าปลีกของโลตัสให้แข็งแกร่ง ได้แก่ 1) Inspiring fresh & food destination การเป็นศูนย์รวมอาหารและอาหารสดชั้นนำ 2) SMART life solutions เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ลูกค้าและมอบประสบการณ์ omni-channel ที่ไร้รอยต่อ 3) Personalized value that goes beyond price ความคุ้มค่าที่มากกว่าราคาประหยัด พร้อมสิทธิพิเศษที่รู้ใจลูกค้า และ 4) Everyday sustainability แพลตฟอร์มแห่งโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร”
Inspiring fresh & food destination: ศูนย์รวมอาหารและอาหารสดชั้นนำ
ในช่วงครึ่งปีแรก โลตัส ได้เปิดสาขาใหม่ 39 แห่ง โดยได้เปิดตัวคอนเซปต์ใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ อาทิ SMART Urban Supermarket, Open Air Mall และ SMART F&B Heaven โดยทั้งหมดชูความเป็นศูนย์รวมอาหารและอาหารสดชั้นนำ (Inspiring Fresh & Food Destination) และการเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ทของชุมชนทุกวัน (Everyday SMART Community Center) ซึ่งจากเสียงตอบรับที่ดีของลูกค้าต่อคอนเซปต์ใหม่ๆ เหล่านี้ เราจะนำไปพัฒนาและต่อยอดเพื่อใช้ในสาขาอื่นๆ ในครึ่งปีหลัง ซึ่งโลตัส มีแผนงานในการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกประมาณ 70-80 สาขา รวมถึง โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ สาขา flagship ที่จะเปิดในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
นอกจากนั้น ในส่วนของพื้นที่เช่า โลตัส มุ่งเน้นการเพิ่มทางเลือกในด้านอาหารให้กับลูกค้า โดยได้เพิ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบ และร้านดังในท้องถิ่น อีกกว่า 1,300 รายในครึ่งปีแรกและมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนเป็น 5,800 ร้านภายในสิ้นปีนี้
ในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ต แผนกอาหารสดเป็นแผนกที่โลตัสให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และได้เดินหน้ายกระดับแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาสินค้าจากแหล่งที่ดีที่สุดทั้งในไทยและต่างประเทศ การยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า การเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีความหลากหลาย อาทิ ผลไม้อัตลักษณ์คัดเกรด อาหารสดพรีเมี่ยมและอาหารสดนำเข้า รวมไปถึงการจัดเรียงสินค้าในสาขาที่จะทำให้ประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าดีขึ้นกว่าเดิม โดยทั้งหมดยังคงต้องมีราคาที่เอื้อมถึงได้เพื่อช่วยลูกค้าและประชาชนประหยัดค่าครองชีพในทุกๆ วัน
SMART life solutions: เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ลูกค้า และมอบประสบการณ์ omni-channel ที่ไร้รอยต่อ
ในเดือนมีนาคม 2565 โลตัส ได้เปิดตัว Lotus’s SMART App แอปพลิเคชันค้าปลีกรายแรก ที่รวมแพลตฟอร์ม e-commerce และโปรแกรมขอบคุณลูกค้า MyLotus’s เข้าไว้ด้วยกัน โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปแล้วกว่า 4.5 ล้านราย และยอดการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เติบโตขึ้นกว่า 400% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565
เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดสามารถเชื่อมต่อสาขาของโลตัสประมาณ 2,300 แห่งทั่วประเทศ กับออนไลน์แพลตฟอร์ม ทำให้ปัจจุบัน โลตัส สามารถขยายบริการออนไลน์ช็อปปิ้งไปได้ในทุกจังหวัดที่โลตัสมีสาขาตั้งอยู่ และสามารถจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคได้แบบ on-demand จากร้านโลตัส โก เฟรช ที่อยู่ใกล้ชุมชน และแบบ next-day จากไฮเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขา สต๊อกสินค้าของแต่ละสาขาที่ถูกอัปเดตแบบ real-time ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีอยู่ในสาขาที่ใกล้บ้านที่สุด
Lotus’s SMART App ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายสาขาของ โลตัส ทำให้โลตัส เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีจุดกระจายสินค้าที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย สามารถจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ มีความพร้อมอย่างยิ่งในการตอบรับการเติบโตของเทรนด์ออนไลน์ช็อปปิ้งต่อไปในอนาคต
Personalized value that goes beyond price: ความคุ้มค่าที่มากกว่าราคาประหยัด มอบสิทธิพิเศษที่รู้ใจลูกค้าแต่ละราย
โปรแกรมขอบคุณลูกค้า MyLotus’s (มายโลตัส) คือเครื่องมือสำคัญในการส่งมอบความคุ้มค่าที่ตรงใจลูกค้าแต่ละราย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใช้ในการประมวล big data ของลูกค้าช่วยให้โลตัส สามารถออกแบบส่วนลดและสิทธิพิเศษที่เหมาะสมกับความต้องการและพฤติกรรมการช็อปปิ้งของลูกค้าแต่ละรายได้ นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ช่วยให้การสะสมและแลก MyLotus’s coins ของลูกค้าเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะซื้อสินค้าในสาขาหรือออนไลน์ก็ตาม
นอกจากนั้น แคมเปญ “ราคามายโลตัส” ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยกระดับความคุ้มค่าด้วยสินค้าราคาที่ดีที่สุดของโลตัส จากการร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าแบรนด์ดังกว่า 50 แบรนด์ ทำให้โลตัส สามารถมอบราคาสินค้าลดพิเศษกว่า 500 รายการ ให้สมาชิกมายโลตัสได้ สำหรับครึ่งปีหลัง แคมเปญ “ราคามายโลตัส” จะมีการหมุนเวียนสินค้ารายการอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของลูกค้าต่อไป
Everyday sustainability: แพลตฟอร์มแห่งโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร
โลตัส มุ่งมั่นในการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผ่านการจำหน่ายสินค้าในสาขาและช่องทางออนไลน์ของโลตัส หรือการดำเนินธุรกิจในพื้นที่มอลล์ของโลตัส นอกจากการสนับสนุนช่องทางการขายแล้ว โลตัส ยังเดินหน้าพัฒนาศักยภาพรอบด้านที่จะทำให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร เติบโตได้อย่างมั่นคง ในครึ่งปีที่ผ่านมา โลตัส ได้สนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไปแล้วกว่า 2,500 ราย ทั้งผ่านกิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) ที่จัดขึ้นทุกเดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการนำเสนอสินค้าและรับคำแนะนำจากทีมจัดซื้อเพื่อวางจำหน่ายในสาขาของโลตัส และมีการจัดสัมมนาอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สนับสนุนพื้นที่ทดลองขายฟรี และส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ขายในศูนย์การค้า
แผนงานในครึ่งปีหลัง จะยังคงเน้นการจับคู่ธุรกิจเพื่อรับซื้อสินค้า SME เพิ่มเติม การพัฒนาศักยภาพผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ การรับซื้อผักและผลไม้ตรงจากเกษตรกร โดยเฉพาะผลไม้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI (Geographic Indications หรือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) นอกจากนั้น เรายังได้ร่วมกับ CP Origin ในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มที่จะช่วยผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาของโลตัส โดยสามารถเช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าในระยะสั้น เริ่มต้นเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสะดวก ง่าย และคล่องตัว ให้กับผู้ประกอบการเลือกพื้นที่และสัญญาเช่าที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจตนเอง
“ด้วยปัจจัยบวก อาทิ นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากภาครัฐ ผมเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นตัว ซึ่ง โลตัส ก็มีความพร้อมในการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งที่เราได้ปูเอาไว้ในครึ่งปีแรก และเราจะใช้ความเป็นผู้นำ New SMART Retail ในการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายสมพงษ์ กล่าวสรุป
จำนวนสาขาของโลตัส ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2565
ไฮเปอร์มาร์เก็ต 224 สาขา
ซุปเปอร์มาร์เก็ต 203 สาขา
มินิซุปเปอร์มาร์เก็ต 1,852 สาขา
รวม 2,279 สาขา