นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงผลสำเร็จเวทีการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thai land Climate Action Conference หรือ TCAC) เรื่อง “The Way Forward ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย” ว่า จากปัญหา Climate Change ประเทศไทยจะต้องบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใน ปี ค.ศ.2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ.2065 หรือ การทำให้อุณหภูมิโลกลดลง 1.5 องศาเซลเซียส สำหรับ ทส.มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะผลักดันนโยบาย ต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายตามกรอบอนุสัญญาฯและความตกลงปารีสที่ไทยได้ประกาศไว้ในการประชุม COP26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร
นายวราวุธกล่าวต่อว่า ปัจจุบันการเกษตรสมัยใหม่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ผสมผสานกับภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือที่ตนเรียกว่า “Agri-Tech with Roots” มีการใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ ทำให้ผลผลิตมีราคาสูง และส่งผลกระทบต่อสิ่ง แวดล้อมน้อยลง นอกจากนี้ยังมีแนวคิดการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จากโครงการ Thai Rice NAMA (ไทย ไรซ์ นามา) โครงการความร่วมมือระหว่างเยอรมนีและไทย ที่ได้เข้ามาช่วยพี่น้องชาวนาแก้ปัญหาโลกร้อน และช่วยส่งเสริมให้ผลิตข้าวได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยี และเทคนิคการปลูกข้าวแบบใช้น้ำน้อย ทำให้ สามารถเพิ่มผลผลิตข้าว เพิ่มคุณภาพข้าว เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ เรายังมีภารกิจสำคัญที่ต้องผลักดันให้สำเร็จอย่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ...ที่ไทยต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ข้อกฎหมายต่างๆต้องไม่ทับซ้อนกัน.