นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คาร์บอนเครดิต คือกลไกสำคัญใหม่ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว ที่กำลังเพิ่มมูลค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนหรือภาคเอกชน เพียงแค่มีที่ดินปลูกต้นไม้ ก็สามารถเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้แล้ว โดยนำไม้มาคำนวณคาร์บอนเครดิต เพื่อขายในตลาดการค้าคาร์บอนเครดิต ซึ่งจากข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 ระบุว่ามีการจดทะเบียนนำต้นไม้มาเป็นหลักประกันทั้งสิ้น
146,282 ต้น เป็นจำนวนเงินค้ำประกัน 137,117,712 บาท โดยปัจจุบัน ราคาคาร์บอนเครดิตได้ขยับตัวขึ้นสูงไปถึง 120 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ และคาดว่าจะขยับตัวสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
รมว.ทส.กล่าวต่อว่า สำหรับปัจจุบันมีไม้ยืนต้นที่สามารถเป็นหลักประกันได้ 58 ชนิด ได้แก่ ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะเคียนชันตาแมว ไม้สกุลยาง (ไม่รวมยางพารา) สะเดา สะเดาเทียม ตะกู ยมหิน ยมหอม นางพญาเสือโคร่ง นนทรี สัตบรรณตีนเป็ดทะเล พฤกษ์ ปีบ ตะแบกนา เสลา อินทนิลน้ำ ตะแบกเลือด นากบุด ไม้สัก พะยูง ชิงชัน กระซิก กระพี้เขาควาย สาธร แดง ประดู่ป่า ประดู่บ้าน มะค่าโมง มะค่าแต้ เคี่ยม เคี่ยมคะนอง เต็ง รัง พะยอม ไม้สกุลจำปี ทั้งจำปีสิรินธร จำปีป่า จำปีถิ่นไทย จำปีดง จำปีแขก จำปีเพชร แคนา กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ สุพรรณิการ์ เหลืองปรีดียาธร มะหาด มะขามป้อม หว้า จามจุรี พลับพลา กันเกรา กะทังใบใหญ่ หลุมพอ กฤษณา ไม้หอม เทพทาโร ฝาง ไผ่ทุกชนิด ไม้สกุลมะม่วง ไม้สกุลทุเรียน และมะขาม ทั้งนี้ ประชาชนที่มีที่ดินและต้องการปลูกต้นไม้ สามารถขอรับกล้าไม้ได้ฟรีที่กรมป่าไม้ ดูรายละเอียดที่ https://www.forest.go.th/nursery/wheretogettree/
...