ในหนังสือ ผู้หญิงไทยในอดีต (เทพชู ทับทอง เขียน สำนักพิมพ์ สุวีริยาสาส์น พ.ศ.2446) มีเรื่อง “เครื่องประทิ่นของไทยในอดีต” เทพชูบอกว่า เครื่องประทิ่น ก็คือเครื่องหอมต่างๆ ที่สตรีและเด็กสมัยก่อนใช้ “ประ” หรือ “ลูบ”

เครื่องประทิ่นมีหลายอย่าง แป้ง ดินสอพอง ขมิ้น กระแจะ สีผึ้ง น้ำอบไทย น้ำอบฝรั่ง น้ำมันตานี มุหน่าย น้ำมันจันทน์ จวงจันทน์

เอ้า! เข้าทางที่อยากรู้มานาน จันทน์ รู้จัก จวง คืออะไร

แป้ง มีแป้งนวล แป้งร่ำ แป้งสด แป้งสารภี สำหรับใช้ประ หรือทาหน้าตาเนื้อตัว และยังใช้จุนเจิมในพิธีต่างๆ

แป้งนวล เป็นแป้งหินมาจากเมืองจีน สมัยปลาย ร.5 ต้น ร.6 แป้งนวลเม็ดเล็กราคาปีบละ 10 สลึง เม็ดกลางราคาปีบละ 5 สลึง

แป้งร่ำ คือแป้งนวลที่เอามาผสมกับน้ำอบไทยหรือน้ำปรุง แล้วเอามาร่ำในหีบหรือภาชนะที่ปิดมิดชิดเพื่อให้กลิ่นหอม วิธีร่ำเอาถ่านไฟแดงๆใส่ในตะคัน หรือในหีบในโถ เอาพิมเสน กำยาน ไม้จันทน์ ใส่ลงไป แล้วปิดทิ้งไว้จนถ่านมอดดับเป็นขี้เถ้า

แป้งสด เป็นแป้งกับน้ำอบร่ำด้วยน้ำดอกไม้เทศ ใช้ชุบผ้าห่อใบตอง แป้งสารภีเป็นแป้งผสมกับเกสรสารภีดำ ใช้ทาตัว ดินสอพอง มาจากลพบุรี บรรทุกเรือเข้ามาเป็นลำๆ วิธีทำ...เอาดินสอพองแช่น้ำให้ละลายจนหมด

กรองจนใส ต่อจากนั้นจึงเอามาหยอดลงบนแผงที่ปูด้วยผ้า แล้วเอาไปตากแดด

คุณเทพชูบอกว่า คนสมัยก่อน นิยมทาแป้งจนหน้าขาวทั้งผู้หญิงผู้ชาย เห็นกันแต่ไกล ฝรั่งเห็นคนเนื้อตัวดำ ทาหน้าขาว จึงเห็นเป็นเรื่องประหลาด ส่วนดินสอพอง ทาหน้าร้อนแล้วเย็นสบาย แก้ผดผื่นคันได้

ขมิ้น คือขมิ้นที่ตำเป็นผง ละลายกับน้ำใช้ทาตัว นิยมใช้ทั้งเด็กผู้ใหญ่ ผู้หญิงชอบทาทั้งตัวจนตัวเหลือง เพราะถือว่าขมิ้นเป็นยารักษาผิว ทำให้ผิวงาม

...

พระภิกษุใช้ เวลาปลงผม ทั้งยังเอาไปย้อมสบงจีวร จนเป็นที่มาของคำค่อนขอดวัดว่าดงขมิ้น

ความจริงคนไทยใช้ขมิ้นตั้งแต่แรกเกิด เด็กเกิดใหม่พอตัดสายสะดือ อาบน้ำแล้วก็ทาขมิ้นทั้งตัว แล้วห่อผ้าใส่ไว้ในกระด้ง ส่วนแม่ก่อนจะอยู่ไฟ หมอตำแยก็จะเอาขมิ้นกับปูนเสกทาหน้าท้อง เชื่อกันว่าท้องจะได้ไม่แตกลาย

พอเด็กสะดือหลุด ก็จะเอาขมิ้นโรยสะดือสมานแผล

สตรีผู้ดีใช้ขมิ้นทาตัวจนกระทั่งโตเป็นสาว มีครอบครัวแล้ว ก็ยังใช้ขมิ้นไปจนกระทั่งตาย

กระแจะ เป็นผงเครื่องหอมที่ผสมด้วยไม้จันทน์ ชะมดเชียง หญ้าฝรั่น สีผึ้งใช้ทาปาก ทาผม น้ำอบไทยใช้กันทั่วไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่ ชายหญิง ไพร่ผู้ดี สตรีสูงศักดิ์ใช้น้ำอบไทยปรุง ด้วยแป้งร่ำ น้ำมันจันทน์กะพ้อ น้ำมันจันทร์ น้ำมันดอกแก้ว

น้ำอบฝรั่ง หรือน้ำหอม เริ่มใช้กันในสมัย ร.4 น้ำมันตานี ใช้ทาและใส่ผม มุหน่าย คือน้ำมันตานีที่ผสมกับเขม่าและปูนใช้เป็น เครื่องเจิม น้ำมันจันทน์ใสหอม ใช้ทาตัว

จวงจันทน์ จวงคือต้นเทพทาโรทางปักษ์ใต้ จันทน์คือต้นจันทน์ที่มีกลิ่นหอมเหมือนๆกัน

พอรู้จักเครื่องประทิ่นกันบ้างแล้ว ผมคัดลอกมาบอกต่อ เผื่อ 11 รัฐมนตรีฟากรัฐบาล ท่านอยากจะหามาใช้...

จบการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว พอเข้าใจได้ หลายๆท่าน หน้าตาเนื้อตัว คงยังสะสางคราบไคลจากน้ำลายฝ่ายค้านไม่หมด น้ำลายจากบางปาก ผมได้ข่าวมาเขาทำคุณไสยใส่

ต้องไปเสาะหาเครื่องประทิ่นโบราณมาใช้แก้อาถรรพณ์ให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ.

กิเลน ประลองเชิง