ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เปิดเผยว่า การกระจายอำนาจโดยถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สวรส.ต้องศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การถ่ายโอนไม่สะดุด เมื่อถึงวันที่ 1 ต.ค.2565 ซึ่งเป็นการถ่ายโอนจริง จำเป็นต้องมีงานวิจัยประกอบ 2 ประเด็น คือ 1.สุขภาพของประชาชนหลังการถ่ายโอนเป็นอย่างไร และ 2.ระบบบริหารจัดการต่างๆ อาทิ ระบบบริการ ระบบกำลังคน เมื่อถ่ายโอนจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปกระทรวงมหาดไทยจะเป็นอย่างไร รวมถึงระบบข้อมูล เพราะหากมีโรคระบาดจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน และ สธ.ควรจะทราบข้อมูลในฐานะเป็น National Health Authority รวมไปถึงระบบยา เวชภัณฑ์ วัคซีน ซึ่งปกติ สธ.จะจัดซื้อยารวม ทำให้ได้ราคาถูก แต่หากแยกซื้อจะมีราคาแพง จึงต้องไปดูว่ามีระบบอะไรรองรับให้ รพ.สต.ที่ถ่ายโอนสามารถจัดซื้อยาได้ราคาถูก และประชาชนเข้าถึงยาได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีระบบการเงินการคลัง การอภิบาลระบบการดูแลกำกับเชิงนโยบาย ซึ่ง สวรส.จะหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง

ผศ.ดร.จรวยพรกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เป็นข้อห่วงคือเรื่องระบบบริการ และตัวบุคลากร ยกตัวอย่าง รพ.สต. 1 แห่ง หากมีบุคลากรทำงาน 4 คน โดย 2 คนจากที่เคยสังกัด สธ. เมื่อโอนย้ายแล้ว ด้วยความเป็นคนเดิมทำงานในพื้นที่มาตลอด ก็จะสามารถเชื่อมโยงขอความช่วยเหลือผ่านเครือข่ายต่างๆได้ เรียกว่ามีเลือดสาธารณสุขอยู่ แต่อีก 2 คน หากเป็นคนใหม่ที่ไม่คุ้นชินจะมีผลต่อการทำงานหรือไม่ สิ่งสำคัญเมื่อถ่ายโอนแล้วต้องไม่มีผลต่อการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ คือคุณภาพการบริการต้องไม่ต่ำกว่าเดิม.