"ฝรั่งเศส-ไทย" เดินหน้าร่วมสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พร้อมกระชับความร่วมมือ ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ให้เป็นที่รับรู้

วันที่ 14 ก.ค. ของทุกปี ตรงกับวันชาติของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ถือเป็นวาระอันดีอีกครั้งในการส่งเสริมคุณค่า 3 ประการ ได้แก่ เสรีภาพ, ความเสมอภาค และภราดรภาพ อันเป็นรากฐานของชาติฝรั่งเศสให้เป็นที่รับรู้ทั่วโลก อนึ่ง วันชาติฝรั่งเศสในปีนี้มีความหมายพิเศษ การสิ้นสุดการระบาดของโรคโควิด-19 ในอีกไม่ช้าที่ทุกคนรอคอย บ่งบอกถึงการกลับคืนสู่เสรีภาพขั้นพื้นฐาน นั่นคือเสรีภาพในการเดินทางซึ่งมีความสำคัญต่อฝรั่งเศสและไทยในฐานะประเทศท่องเที่ยว ฝรั่งเศสเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก โดยก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 มีผู้ไปเยือนปีละมากกว่า 80 ล้านคน และในระยะหลังนี้ มีชาวไทยไปเยือนมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนักท่องเที่ยว นักศึกษา ผู้ประกอบอาชีพต่างๆ และนักลงทุน จำนวนการขอวีซ่ากับสถานทูตฝรั่งเศส ที่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนชาวฝรั่งเศสซึ่งมีมากกว่า 800,000 คน ที่เคยมาเยือนไทยอันเป็นจุดหมายยอดนิยมในเอเชีย ก็พร้อมที่จะกลับมายังเมืองแห่งรอยยิ้มนี้อีกครั้ง ไทยเป็นประเทศที่มีชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่มากเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากจีน ชาวฝรั่งเศสและบริษัทฝรั่งเศสในไทยได้มีส่วนช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยมานาน โดยฝรั่งเศสต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบการหารือฝรั่งเศส-ไทยด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธุ์ซึ่งรัฐบาลทั้งสองประเทศกำลังเตรียมการ

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสใช้โอกาสในช่วงที่ผ่านมา เน้นย้ำความสำคัญของหลักความเสมอภาค โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข และการเข้าถึงวัคซีน ในเดือนพ.ย. 2563 ฝรั่งเศสได้ให้คำมั่นที่จะบริจาควัคซีน 120 ล้านโดสให้แก่ประเทศที่ต้องการ แม้ว่าวัคซีนที่ฝรั่งเศสบริจาคส่วนใหญ่จะส่งมอบผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) แต่วัคซีน 3.3 ล้านโดสที่ส่งมอบให้ไทยเป็นการบริจาคเป็นกรณีพิเศษโดยดำเนินการแบบทวิภาคี ถือเป็นการแสดงถึงหลักภราดรภาพอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงมิตรภาพอันเก่าแก่ของสองประเทศ โดยไทยเป็นประเทศในเอเชียที่ฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์เก่าแก่ที่สุด

...

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฝรั่งเศสและไทยต่างมุ่งมั่นกระชับความร่วมมือในโครงการที่เป็นรูปธรรมทุกด้าน โดยได้ประชุมหารือร่วมกันหลายรูปแบบ อาทิ การหารือทางเศรษฐกิจของเจ้าหน้าที่ระดับสูง การประชุมร่วมคณะกรรมการกลาโหม การหารือทวิภาคีทางการเมือง มีการลงนามหรือการเจรจาเอกสารสำคัญต่างๆ อาทิ ปฏิญญาแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในสาขาคมนาคมขนส่ง ปฏิญญาแสดงเจตจำนงด้านการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการ ความตกลงด้านการวิจัยและการอุดมศึกษา ความตกลงด้านความร่วมมือด้านโรงพยาบาลซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการ ในเดือนมิถุนายน 2565 คณะผู้แทนระดับสูงภาคเอกชนฝรั่งเศสได้เลือกมาเยือนไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งแสดงถึงความสำคัญที่ภาคเอกชนฝรั่งเศสมีให้แก่ไทย

ขณะที่การกระชับความร่วมมือกับไทย หมายรวมถึงการส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของสองประเทศให้เป็นที่รับรู้ เพื่อให้เห็นศักยภาพด้านการสร้างสรรค์ของแต่ละฝ่าย หากการท่องเที่ยว อาหาร และสินค้าหรูหรา คือสิ่งที่คนทั่วไปนึกถึงเมื่อพูดถึงฝรั่งเศสและไทย การส่งเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีของสองประเทศในสาขาต่างๆ ก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) การบินและอวกาศซึ่งในปีหน้าจะมีการพัฒนาความร่วมมือที่สำคัญในการปล่อยดาวเทียม THEOS-2 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เกษตรและอาหาร ตลอดจนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและสร้างสรรค์

ดังนั้น รัฐบาลทั้งสองประเทศจึงเห็นชอบกำหนดให้ปี 2566 เป็นปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมมากมายทั้งในไทยและฝรั่งเศส เพื่อแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมของสองประเทศในด้านเศรษฐกิจ การอุดมศึกษา และวัฒนธรรม โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายที่เยาวชน

อย่างไรก็ตาม การกระชับความสัมพันธ์กับไทยคือภารกิจสำคัญของฝรั่งเศสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองฝ่ายต่างทำงานร่วมกันอย่างกระตือรือร้นและมุ่งมั่นเพื่อเตรียมโครงการสำคัญต่างๆ รวมถึงด้านวัฒนธรรม อาทิ เทศกาลมรดกภาพยนตร์นานาชาติ MEMORY! ซึ่งปีนี้จะจัดในเดือนธันวาคม เพื่อเชิดชูมรดกภาพยนตร์โลก และแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-ไทยนอกจากจะก้าวสู่อนาคตอย่างมุ่งมั่นแล้ว ก็ยังฝังรากลึกในประวัติศาสตร์เช่นกัน.