เบาะแส “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” ของตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 รับแจ้งข้อมูลการโจรกรรมรถ จยย.จำนวนมากสูญหายหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ หน.ชป.5 ศปอส.ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จัดทีมสืบสวนภาค 2 สืบสวนนครบาล สืบสวน บก.น.2 และชุดปฏิบัติการที่ 5 ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลวิธีการกระทำผิดที่ท้าทาย “ไม่สนใจกล้องวงจรปิด” แม้รถ จยย.ที่ขโมยจอดอยู่หน้ากล้องวงจรปิด คนร้ายก่อเหตุไม่เกรงกลัว และก่อเหตุลักษณะเดิมซ้ำๆ

ตระเวนก่อเหตุทั่วพื้นที่กรุงเทพฯเกือบทุกวัน เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต ผู้เสียหายส่วนใหญ่ยังผ่อนชำระค่ารถไม่ครบ และต้องมาผ่อนทั้งๆที่รถสูญหายไปไม่ได้นำมาใช้งานประกอบอาชีพ

พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต.ธีรเดช นำทีมสืบสวน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สอบสวน บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.น.2 พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา สว.กก.สส.บก.น.2 ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ บก.น.2 แกะรอยไล่ล่าแก๊งลักรถ จยย. ไล่ “กล้องวงจรปิด” กว่า 100 ตัว หาตัวคนร้ายตามโครงการกล้องวงจรปิด “สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0” ของ ผบ.ตร. จนทราบตัวคนร้ายคือ นายเอกลักษณ์ หรือกอล์ฟ เชื้อกลางใหญ่ อายุ 38 ปี หัวหน้าแก๊งตูมตาม

...

“แก๊งตูมตาม” ในอดีตเมื่อปี 2553 ออกอาละวาดตระเวนลักรถ จยย.ตามใบสั่ง ปี 2553 ลักรถ จยย.ไปกว่า 100 คัน วันที่ 6 ต.ค.2553 แก๊งตูมตามถูกจับเนื่องจากก่อเหตุโจรกรรมรถ จยย.ลานจอดรถชัชวาลย์อพาร์ตเมนต์ ซอยรามอินทรา 34 ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าของอพาร์ตเมนต์บาดเจ็บบุตรชายเสียชีวิต

หายไปจากวงการพักใหญ่ก่อนที่นายเอกลักษณ์พ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ธ.ค.2564

วันที่ 19 มิ.ย. พล.ต.ต.นพศิลป์ พล.ต.ต.ธีรเดช พ.ต.อ.อัครพล นำชุดสืบสวนบุกจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่ห้อง 2 VC อพาร์ตเมนต์ 85/27 ซอยเอกมัย 30 ยึดของกลางรถ จยย.ฮอนด้า ทะเบียน 9กผ 9456 กทม. นายกอล์ฟรับว่า เพิ่งได้ก่อเหตุและกำลังนำไปซ่อนรถ จยย.ฮอนด้าทะเบียน 4ขบ 6240 กทม. ลักมาจอดทิ้งไว้ทางขึ้น BTS สถานีพหลโยธิน 59 อาวุธปืนพกลูกโม่พร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด บรรจุอยู่ภายในรังเพลิง

อุปกรณ์ช่างใช้ลักรถ จยย. 8 รายการ โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ทำทะเบียนปลอมค้างบนหน้าจอ

ชุดสืบสวนจับกุมนายเอกลักษณ์ได้แบบคาหนังคาเขา ขณะเข็นรถที่ขโมยมาไปซ่อนในห้องพัก ตรวจค้นห้องพักพบว่ามีการทำทะเบียนปลอมโดยใช้โปรแกรม PHOTOSHOP แล้วปรินต์ด้วยกระดาษมันให้มีขนาดเท่ากับแผ่นป้ายทะเบียนจริงนำมาใส่ในกรอบสวมใส่รถที่ขโมยมาและปลอมเล่มทะเบียนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

นายเอกลักษณ์จำนนต่อหลักฐาน ให้การและนำชี้จุดที่เคยก่อเหตุทั้งหมด 34 จุด กระจายทั่วในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ หอพักฟิฟตี้ไนน์ เพลส ซ.พหลโยธิน 59 หอพัก PS-Mansion 2 ซ.พหลโยธิน 36 หอพัก M&M APARTMENT ซ.เสนานิคม 2 พื้นที่ สน.บางเขน ห้องพักรายเดือนเสริมศิริ ถนนงามวงศ์วาน หน้าร้านน้องส้ม คาราโอเกะ ถนนงามวงศ์วาน เน็ตเฮ้าส์ อพาร์ตเมนต์ ซอยงามวงศ์วาน 43 แยก 2-11 พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง

หน้าบริษัท ยูไนเต็ด กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ถนนรัชดาภิเษก หน้าร้าน 5 Stars Ideal 16 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย SS villa อพาร์ตเมนต์ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย พื้นที่ สน.สุทธิสาร ซอยรามคำแหง 79/2 หน้าหอพัก 52 แมนชั่น ซ.รามคำแหง 52 หน้าร้านครัวสมบูรณ์ ซ.รามคำแหง 60 พื้นที่ สน.หัวหมาก หอพักบ้านบุญธิดา ซ.รามคำแหง 170 แยก 6 อาคารมนัศยา 2 ซ.รามคำแหง 182 หอพักณหทัย เพลส ซ.ร่มเกล้า 6 หน้าบ้านเลขที่ 360/186 ซ.ร่มเกล้า 18 พื้นที่ สน.มีนบุรี หน้าหอเสริมสุข ซ.ผาสุข ปาริชาติ อพาร์ตเมนต์ ซอยเสือใหญ่อุทิศ พื้นที่ สน.พหลโยธิน

บางกะปิ คอนโดทาวน์ ซ.ลาดพร้าว 121 แฟลตคลองจั่นอาคาร 17 พื้นที่ สน.ลาดพร้าว บ้านทองทิพย์ คอนโดเทล พื้นที่ สน.บึงกุ่ม ปากซอยร่วมน้ำใจ 4 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม พื้นที่ สน.โชคชัย ซอยรามอินทรา 32/3 พื้นที่ สน.โคกคราม ซอยคลังมนตรี แยก 7 พื้นที่ สน.ประชาชื่น หอพักซอยประดิพัทธ์ 12 พื้นที่ สน.บางซื่อ

...

หน้าหอพัก NS อพาร์ตเมนต์ ซ.นาทอง 7 หน้าห้องพักไม่ทราบเลขที่ ซ.โพธิ์ปั้น พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ด้านข้างอาคาร บริษัท จูลี่ เทรดดิ้ง ประเทศไทย จำกัด ปากซอย 54 ถ.พระราม 3 หน้าห้องพักไม่ทราบเลขที่ ภายในซอย 52 ถ.พระราม 3 พื้นที่ สน.บางโพงพาง ตรอกข้างบ้านเลขที่ 8/7 ซอยจินดาถวิล ถนนพระราม 4 ซอยพระยาดำรงค์ ถ.พระราม 4 พื้นที่ สน.บางรัก หน้าหอพักเลขที่ 22/1 พัฒนาการ 64 พื้นที่ สน.ประเวศ หน้าหอพักบ้านต้องตา ซ.งามวงศ์วาน 25 แยก 17 หน้าหอพักเอพี แมนชั่น ซ.ประชาชื่นนนทบุรี 7 พื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ชุดสืบสวนยึดรถ จยย.ฮอนด้า ลีด 125 สีแดง ทะเบียน 4 ขบ 6240 กทม.จอดทิ้งไว้ทางขึ้น BTS สถานีพหลโยธิน 59 จอดทิ้งไว้ก่อนไปก่อเหตุและถูกตำรวจจับ พบว่ามีการใช้ทะเบียนปลอมแบบกระดาษใส่กรอบไว้ สอดคล้องกับพยานหลักฐานการปลอมที่ค้นพบในคอมพิวเตอร์ภายในห้องพักนายเอกลักษณ์

ชุดสืบสวนประสานงานไปยังสถานีตำรวจทั่วกรุงเทพฯ ติดต่อผู้เสียหายที่เคยถูกนายเอกลักษณ์ ขโมยรถ จยย.ตามจุดสถานที่นายเอกลักษณ์เคยไปก่อเหตุทั้งหมด

นายเอกลักษณ์รับว่า ติดคุกเป็นเวลา 11 ปี พ้นโทษออกมาไม่มีงานทำเพราะเวลาไปสมัครงานจะต้องตรวจสอบประวัติไม่มีใครรับทำงานทำให้ไม่มีรายได้ จึงกลับมาก่อเหตุตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.65 จนถึงปัจจุบันขายรถ จยย.ที่ลักมา 10,000-20,000 บาทต่อคัน จนมีความชำนาญ ผู้ต้องหาอ้างทำผิดคนเดียวไม่ยอมซัดทอดคนอื่น

...

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “คดีนี้เป็นการร่วมมือตำรวจหลายหน่วย ได้แก่ สืบสวนภาค 2 สืบสวนนครบาล สืบสวน บก.น.2 และทีมตำรวจ PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 และจากการไล่กล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายก่อเหตุลักษณะอุกอาจมากโดยมีการพกพาอาวุธปืนเพื่อใช้ในการกระทำผิดซึ่งเป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง และเราไม่เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุเพียงคนเดียว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งให้รีบดำเนินการขยายผลจับกุมทั้งขบวนการโดยเร็ว ผมเห็นว่าคนที่ทำผิดแล้วไม่สำนึก ทำความผิดจนเป็นสันดาน ผมไม่ยอมให้คนเหล่านี้ออกมาเพ่นพ่านปะปนอยู่ในสังคม”

เป็นข้อมูลบางส่วนที่ได้จาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนภาค 2 เป็นเบาะแสสำคัญจากพี่น้องประชาชนด้วยความเชื่อมั่นในการรักษาความลับของผู้แจ้งข่าวและตำรวจสืบภาค 2 เข้าช่วยเหลือจับกุมทันที

ช่วยปิดคดีอาชญากรรมสำคัญได้อย่างต่อเนื่อง.

ทีมข่าวอาชญากรรม