เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่อาคารรัฐสภา ในงานสัมมนาเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : ยุทธศาสตร์ของไทยและบทบาทของรัฐสภา” นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีแนวโน้มนำไปสู่ปัญหาระดับวิกฤติ ไทยให้ความสำคัญต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือน กระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2608 จึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส โดยกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายในยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นประเด็นเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่มีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาประเทศ รัฐสภา จึงสร้างความร่วมมือกับ สสส. ทส. และทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนามาตรการและกลไกสนับสนุน ทั้งด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ สังคม รวมทั้งการป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่าย มุ่งดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูสภาพภูมิอากาศผ่านโครงการ “พลเมืองตื่นรู้กอบกู้วิกฤติโลกร้อน” สร้างความตื่นตัวของประชาชน/คนรุ่นใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แบบแผนชีวิต ร่วมขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทย
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ทส.เร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (พ.ร.บ.โลกร้อน) พ.ศ. ....ขณะนี้ อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไปภายในปี 2566.
...