นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและลดอ้อยไฟไหม้เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปี 2565 – 2567
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ผลักดันโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องผ่านคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยสามารถกู้เงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรใช้ไร่ในอ้อย แก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการเผาอ้อยก่อนตัด ถือเป็นการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ต้นเหตุ ทั้งยังเพิ่มผลผลิตอ้อยตันต่อไร่สูงขึ้นอีกด้วย
ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในอัตรา 2% ต่อปีให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย วงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2565 – 2567 รวมเป็นเงิน 6,000 ล้านบาท ซึ่ง ครม. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. เป็นเงิน 789.75 ล้านบาท มีรายละเอียดโครงการ ดังนี้
1. กู้เงินเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย และปรับพื้นที่ปลูกอ้อย รายละไม่เกิน 500,000 บาท
2. กู้เงินเพื่อจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น รถตัดอ้อย รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท
3. กู้เงินเพื่อซื้อรถบรรทุกและพ่วงบรรทุก ชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 8 ปี ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ 4% ต่อปี
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จึงได้ร่วมกับ ธ.ก.ส. เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ต้องการซื้อเครื่องจักร เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงาน และจัดทำระบบน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยในไร่ที่จะส่งผลให้มีต้นทุนในการผลิตอ้อยที่ต่ำลง โดยโครงการนี้จะมีพื้นที่ปลูกอ้อยได้รับประโยชน์ประมาณ 1.5 ล้านไร่