“เฉลิมชัย” เร่งแก้ปัญหาปุ๋ยเคมีแพง ปุ๋ยขาดแคลน ส่ง “อลงกรณ์” นำคณะเจรจารัสเซียซื้อปุ๋ยราคามิตรภาพ โดยล่าสุดเห็นด้วยในหลักการที่จะขายปุ๋ยให้ไทยในราคาพิเศษ พร้อมดึง “ธ.ก.ส.-อ.ต.ก.” ร่วมโครงการ เตรียมหารือรูปแบบการนำเข้า จะใช้รัสเซียโมเดล ที่ใช้หน่วยงานรัฐช่วยจำหน่ายสู่เกษตรกรโดยตรง หรือซาอุดีอาระเบียโมเดล ที่ส่งต่อให้ภาคเอกชนผู้ส่งออกนำเข้าสองประเทศไปเจรจากัน

จากปัญหาราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ปุ๋ยเคมีขาดตลาด สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรไทยนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อแก้ไขปัญหาปุ๋ยแพง และปุ๋ยขาดแคลนจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้พบหารือกับนิโคไล เชอร์เยฟ ที่ปรึกษาสำนักงานผู้แทนการค้ารัสเซียประจำประเทศไทย วิตาลี คิสเซเรฟ ประธานหอการค้าไทย-รัสเซีย นายยงยุทธ สาระสมบัติ นายกสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-รัสเซีย นายอาณัติชัย รัตตกุล คณะทำงานที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ และ น.ส.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการ สำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากรัสเซียเพิ่มขึ้นในราคามิตรภาพ จากการหารือรอบแรกผู้แทนการค้ารัสเซียยืนยันว่ารัสเซียกับไทยมีความสัมพันธ์กันมากว่าร้อยปี เห็นด้วยในหลักการที่จะขายปุ๋ยให้ไทยในราคาพิเศษ

“ยังมีเรื่องต้องหารือเกี่ยวกับรูปแบบการนำเข้าจะใช้โมเดลการนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซียในราคามิตรภาพโดยสถาบันเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. และจำหน่ายสู่เกษตรกรโดยตรงหรือจะเป็นแบบซาอุดีอาระเบียโมเดล คือภาครัฐตกลงกันเรื่องราคามิตรภาพและมอบหมายเอกชนผู้ส่งออกนำเข้าของ 2 ประเทศไปเจรจากัน อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นต้นทุนการขนส่ง และเรื่องระวางที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่งปุ๋ยทางรถไฟมาลงเรือที่เมืองท่าวลาดิวอสต็อก ทางฝั่งมหาสมุทร แปซิฟิก หรือขนส่งด้วยรถไฟจีน-ลาว และประเด็นเรื่องสกุลเงินในการชำระค่าปุ๋ย” นายอลงกรณ์กล่าวและว่า ในการประชุมครั้งหน้าจะเชิญผู้แทนของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร องค์การ ตลาดเพื่อเกษตรกร ตัวแทนสถาบันเกษตรกรสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และสมาคมผู้ค้าปุ๋ยร่วมหารือด้วย

...

ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ระบุอีกว่าประเทศไทย นำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์กว่า 5 ล้านตัน เป็นมูลค่ากว่า 73,430 ล้านบาท ในปี 2564 มากกว่าปี 2563 ถึง 54.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรัสเซียเป็นประเทศที่ส่งออกปุ๋ยเคมี คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดในโลกปีละกว่า 2 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 12.7 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าการส่งออกทั้งโลก โดยไทยนำเข้าจากรัสเซียเป็นมูลค่า 5,670 ล้านบาท ในปีที่แล้วคิดเป็นสัดส่วนราว 7.7 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าปุ๋ยเคมีทั้งหมด ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาปุ๋ยเคมีทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และเมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยิ่งทำให้ปุ๋ยเคมีมีราคาสูงยิ่งขึ้นไปอีกกระทบต่อต้นทุนของเกษตรกรโดยตรง

ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการต่างประเทศและหอการค้าไทยได้เจรจาขอซื้อปุ๋ยเคมีราคามิตรภาพจากซาอุดีอาระเบีย จนสามารถตกลงในหลักการ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจานำเข้าส่งออกของภาคเอกชนของ 2 ประเทศ