นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวเปิดเสวนานำเสนอผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย หัวข้อ “เหลียวหลัง แลหน้า การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย” ว่า นโยบายของรัฐบาลต้องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แบบถอนรากถอนโคน 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราทุ่มเททำงานทุกองค์กรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างจริงจัง แต่การถูกประเมินจัดอันดับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยหรือทิปรีพอร์ตในสายตาตน ดูไม่ค่อยเป็นธรรมกับคนทำงาน ทั้งที่เราได้แก้จุดอ่อนทุกอย่าง จึงสงสัยว่าการประเมินมี 2 มาตรฐานหรือไม่ คือมาตรฐานประเทศเขาและมาตรฐานประเทศไทย
นายจุติกล่าวต่อว่า เราจะตรวจสอบกลับเหมือนกันว่าที่มาประเมินมี 2 มาตรฐานหรือไม่ เพราะผลประเมินที่ออกมามันค้านสายตาคนทั้งโลก ส่วนจะตรวจสอบกลับอย่างไรนั้น เราจะประเมินในมาตรฐานที่เขาประเมินเรา เอามาตรฐานนั้นประเมินเขากลับ จะมาชี้หน้าเราอย่างเดียวไม่ได้ เอาความจริงมาสู้กับความเท็จดีที่สุด อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้นิ่งเฉย ยอมรับในจุดอ่อนแล้วแก้ไข และเสริมจุดแข็ง อย่างสิ่งที่น่ากลัวตอนนี้คือการชักจูงล่อลวงเยาวชนให้เข้ามาสู่ธุรกิจค้ามนุษย์ ต้องถอนรากถอนโคนให้หมด ตัดความต้องการของตลาดให้ได้
น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ รองปลัด พม. กล่าวว่า ช่วงโควิด-19 การค้ามนุษย์เปลี่ยนรูปแบบไปใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งการถูกหลอกทำสื่อลามก หลอกไปขายบริการทั้งในและต่างประเทศทำให้การทำงานยากขึ้น เพราะไม่เห็นตัวตน
พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า สถิติปี 2559-2564 มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องคดีค้ามนุษย์ 79 คน ในจำนวนนี้ศาลพิพากษาถึงที่สุดสั่งจำคุกไปแล้ว 38 คน มีการดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง 76 คน มีคำสั่งถึงที่สุดให้พ้นจากราชการไปแล้ว 47 คน
...
ดร.รัชดา ไชยคุปต์ ผู้แทนไทยด้านสิทธิสตรีในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก กล่าวว่า การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมที่ทำรายได้มหาศาลรองจากค้าอาวุธและยาเสพติด การทำงานป้องกันและปราบปรามต้องอาศัยความร่วมมือทั้งในและระหว่างประเทศ.