ดีเอสไอ-ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ตามยึด-อายัดทรัพย์ในคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ได้กว่า 300 ล้านบาท หลังนำกำลังเข้าตรวจค้น 6 จุด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบูรณ์ มีทั้งที่ดิน รถหรู ทรัพย์สินมีค่าอื่นๆเผยจ่อยึด-อายัดทรัพย์เพิ่มอีกหลังพบมูลค่าความเสียหายในคดีนี้สูงกว่า 600 ล้านบาท
ยึดทรัพย์คดีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯกว่า 300 ล้านบาท เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 พ.ค. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายระวี อักษรศิริ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญาและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับนายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้งนำกำลังตำรวจ สน.นางเลิ้ง พร้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุด ประกอบด้วย ที่พักอาศัยและสถานประกอบกิจการภัตตาคาร ร้านอาหารใน จ.ปทุมธานี 4 จุด สถานประกอบกิจการโรงแรมใน จ.สมุทรสงครามและ จ.เพชรบูรณ์ 2 จุด เพื่อหา หลักฐาน ยึด อายัดทรัพย์สินในคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด
สืบเนื่องจากคดีทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด อยู่ในอำนาจการสอบสวนของ สน.นางเลิ้ง อันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง พบการทุจริตเป็นเงินมากกว่า 600 ล้านบาท มีการกระทำหลายครั้งลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตาม ม.3 (18) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษที่ 237/2565 เพื่อสืบสวนสอบสวน ยึด อายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พร้อมขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษพบการนำเงินที่ทุจริตออกจากสหกรณ์ไปซื้อทรัพย์สินประเภทที่ดิน เพื่อประกอบกิจการรีสอร์ต บ้านพัก ภัตตาคาร ร้านอาหารหลายแห่ง รวมทั้งรถยนต์หรูและทรัพย์สินอื่นอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนอื่น ถือเป็นพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สินเพื่อปกปิดแหล่งที่มา อันเป็นความผิดฐานฟอกเงินตาม ม.5 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ
...
จากการตรวจค้นทั้ง 6 จุด พบทรัพย์สินประเภทที่ดิน 8 แปลง เนื้อที่ประมาณ 61 ไร่ รถเก๋งเปอโยต์ รถตู้ฮุนได รถปอร์เช่ รวม 3 คัน กระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ นาฬิกาหรูจำนวนหลายเรือน รวมทรัพย์สินฯที่ตรวจยึด อายัด มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างขยายผลติดตามทรัพย์สินอื่นที่เหลือเพื่อนำมาชดใช้ให้กับผู้เสียหายตามขั้นตอน
คดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ครั้งนี้มีนางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม ผู้จัดการสหกรณ์ฯ และนางศิริพร รัตนปราการ หัวหน้าฝ่ายการเงิน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง หลังทั้งคู่มีหน้าที่ดูแลบัญชีเงินฝากสมาชิกและรู้รหัสการเข้าถึงบัญชี ปลอมลายมือชื่อสมาชิกสหกรณ์ที่นำเงินมาฝากเพื่อเบิกถอนเงินเข้าบัญชีของตนเอง รวมทั้งนำเงินที่ได้ไปซื้อทรัพย์สิน รวมทั้งลงทุนประกอบกิจการต่างๆทั้งภัตตาคารและรีสอร์ต สร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ทั้งคู่หลบหนีก่อนมีผู้เห็นการทุจริตเมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค. เพียงไม่กี่วัน