ศบค.ชุดใหญ่ต่อลมหายใจสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ผ่อนคลาย ให้เปิดได้ตามคำร้องขอขายแอลกอฮอล์ถึงเที่ยงคืน เริ่มสตาร์ต 1 มิ.ย. ส่วนชายขี้เมื่อยหากเข้าอาบ อบ นวด แนะให้ใส่หน้ากากอนามัยด้วย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่ต้องกักตัวแต่ให้สังเกตอาการ 10 วัน ปรับระดับสีพื้นที่ ลดสีเหลืองเหลือ 46 จังหวัด เพิ่มสีเขียวเป็น 14 จังหวัด และสีฟ้า 17 จังหวัด ด้านการเดินทางเข้าประเทศคนไทยไม่ต้องกักตัวแล้ว แต่ต่างชาติยังต้องใช้ไทยแลนด์พาส นอกจากนี้ยังเห็นชอบยืดเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน นายกฯวอนขอคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบให้ไปฉีดให้ครบโดยเฉพาะเข็ม 3 เข็ม 4 ยันรัฐบาลทำเต็มที่ เพราะรู้ว่าประชาชนทุกสาขาอาชีพเดือดร้อนจากโควิด-19 ทุกหย่อมหญ้า คุยไทยถูกจัดเป็นอันดับต้นๆของโลกและอันดับหนึ่งอาเซียน ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด
หลังคนไทยต้องเผชิญความยากลำบากจากไวรัสมหันตภัย “โควิด-19” มานานกว่า 2 ปี และไวรัสตัวร้ายได้ทำลายล้างอาชีพต่างๆและธุรกิจการค้าไปมากมายหลายประเภท จนถึงปัจจุบันมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆลงเป็นลำดับเพื่อให้คนในประเทศยิ้มออกบ้าง หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มแผ่วลง
...
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 พ.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 8/2565 ว่าสิ่งที่น่ายินดีคือสถานการณ์ผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับ ขอบคุณที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการ ขอให้ร่วมมือกับรัฐฉีดวัคซีนให้ครบโดยเฉพาะบูสเตอร์เข็ม 3 เข็ม 4 เมื่อเรามีวัคซีนก็ฉีดกันเถอะ อย่างไรก็ปลอดภัย ตนฉีดวัคซีนเข็ม 4 แล้ว ไม่เป็นอะไร ยืนยันเรามีวัคซีน ยารักษาโรคและเตียงเพียงพอ ขณะที่การประชุมได้ผ่อนคลายระดับพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้น รวมถึงมีมติร่วมกันจะผ่อนคลายสถานที่ท่องเที่ยว ผับ บาร์ เริ่มวันที่ 1 มิ.ย. เป็นข้อเรียกร้องที่รับมาพิจารณา เมื่อผ่อนคลายให้เปิดก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศให้รวดเร็วขึ้น เพราะจากสถิติจำนวนคนที่เดินทางเข้าประเทศมีเพิ่มขึ้นทุกวัน
นายกฯกล่าวว่า ส่วนการเปิดเรียนได้รับรายงานว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ ฉะนั้นมาตรการทุกอย่างที่รัฐออกไป รู้ว่าประชาชนเดือดร้อน ไม่สบายใจ เพราะทุกคนถูกสถานการณ์ทำให้เกิดความลำบากในการประกอบการ ประกอบอาชีพ และทุกเรื่อง รัฐบาลจึงพยายามทำอย่างเต็มที่และระมัดระวัง ขอให้เข้าใจรัฐบาลด้วย ที่วันนี้ไทยถูกยกระดับเป็นลำดับต้นๆของโลก หรือเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียนด้วยซ้ำในเรื่องการดูแลการแพร่ระบาด ขณะที่เครื่องจักรอันอื่นยังไปได้ช้า เพราะเราเจอซ้อน 3 ซ้อน คือ 1.มาตรการกีดกันทางการค้า 2.โควิด-19 และ 3.สถานการณ์ความขัดแย้ง เกี่ยวพันกันทั้งหมดเท่ากับรัฐบาลเจอ 3 เด้ง ตนพยายามทำอย่างดีที่สุด ตัดสินใจบนพื้นฐานความถูกต้องจากผลการหารือของทุกฝ่าย เราต้องไปด้วยกัน
ต่อมาเวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์ พบผู้ติดเชื้อใหม่ 6,463 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 41 ราย เป็นชาย 23 ราย หญิง 18 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 36 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย ไม่มีโรคเรื้อรัง 1 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 4,401,378 ราย ยอดหายป่วยสะสม จำนวน 4,312,790 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม จำนวน 29,678 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 525,864,514 ราย เสียชีวิตสะสม 6,297,053 ราย ทิศทางการติดเชื้อ ป่วยหนัก เสียชีวิตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถือว่าการเข้าสู่การประกาศโรคประจำถิ่นในระยะที่สามเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่การประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นยังคงวันที่ 1 ก.ค.ไว้ก่อน เพราะต้องรอดูมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งการเปิดสถานบันเทิง การเปิดภาคเรียนว่าเป็นอย่างไรที่จะเป็นตัวแปร
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบปรับมาตรการการกักตัวในส่วนของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากเดิมให้กักตัว 5 วัน สังเกตอาการอีก 5 วัน เปลี่ยนเป็นไม่ต้องกักตัว แต่ให้สังเกตอาการเป็นเวลา 10 วัน ให้ตรวจเอทีเคเมื่อมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ ขณะเดียวกัน ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ จากเดิมมีพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 65 จังหวัด ปรับลดลงเหลือ 46 จังหวัด เพิ่มพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท ตราด นครพนม น่าน บุรีรัมย์ พิจิตร อ่างทอง มหาสารคาม ยโสธร ลำปาง สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) จาก 12 จังหวัด เป็น 17 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กทม. กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา
...
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการในพื้นที่สีเหลือง ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนเกิน 1,000 คน ขณะที่มาตรการในพื้นที่สีเขียวและฟ้านั้น จัดกิจกรรมต่างๆได้ตามความเหมาะสม อีกทั้งยังผ่อนคลายให้สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะอาบ อบ นวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ให้จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น. งดกิจกรรมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วเดียวกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการให้บริการที่มีการคลุกคลีและสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้า เช่น อาบ อบ นวด ต้องสวมหน้ากาก ผู้รับบริการ ไม่ต้องโชว์ผลตรวจโควิด เพียงแต่โชว์ผลการฉีดวัคซีน พร้อมกับขอความร่วมมือกลุ่ม 608 งดหรือเลี่ยงเข้าพื้นที่เหล่านี้ ขณะที่มาตรการของสถานประกอบการ ผู้ให้บริการ นักร้อง นักดนตรี ต้องได้วัคซีนตามเกณฑ์และได้รับเข็มกระตุ้น ตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวัน ตรวจเอทีเคทุก 7 วัน สถานบริการต้องขึ้นทะเบียนและขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์มไทยสต็อปโควิด อีกทั้งต้องให้กระทรวงมหาดไทย กทม. กระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดติดตามอย่างใกล้ชิด นายกฯเน้นย้ำว่าหากเปิดได้และทำได้ดี จะสนับสนุนให้ทำต่อ แต่ได้แจ้งหน่วยงานด้านความมั่นคงว่าถ้าทำได้ไม่ดี ไม่สอดคล้องกับมาตรการ เจ้าหน้าที่มีสิทธิใช้อำนาจเข้าไปตรวจสอบและสั่งปิดการบริการได้เพื่อความปลอดภัย
โฆษก ศบค.กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยปรับลดการตรวจในการเข้าราชอาณาจักร ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ สามารถแสดงผลตรวจเอทีเคโดยแพทย์ หรือผลตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และยกเลิกการกักตัวในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ แต่หากเดินทางมาถึงแล้วไม่มีผลตรวจโควิด ให้ตรวจเอทีเคที่สนามบิน ขณะที่ระบบไทยแลนด์พาสนั้น ให้คงเหลือเฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น โดยกรอกข้อมูลเพียงแค่ประวัติการรับวัคซีน การทำประกันวงเงิน 1 หมื่นยูเอสดอลลาร์ และพาสปอร์ต เมื่อกรอกข้อมูลดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วจะได้คิวอาร์โค้ดทันที ขณะที่คนไทยไม่ต้องลงทะเบียนไทยแลนด์พาสแล้ว และยกเลิกการกักตัว โดยให้ตรวจเอทีเคที่สนามบิน หากมีผลเป็นบวกให้ไปพบแพทย์และดำเนินการรักษา แต่หากผลเป็นลบสามารถเข้าประเทศได้เลย
...
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศของกลุ่มข้าราชการและนักเรียนทุน จากเดิมที่ห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐ เดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นเหตุจำเป็น รวมถึงระงับนักศึกษาที่ได้ทุนในการดูแลของ ก.พ. ในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ แต่ปัจจุบันสถานการณ์โควิดดีขึ้น จึงยกเลิกมาตรการดังกล่าว ที่ประชุม ศบค.ได้เห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 18 ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-31 ก.ค. จนกว่าจะผ่านเกณฑ์การประเมินเป็นโรคประจำถิ่นตามที่ฝ่ายสาธารณสุขกำหนด
ขณะที่ในช่วงเช้าก่อนมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคเข้าเงื่อนไขของโรคประ จำถิ่นบ้างแล้ว เราไม่เคยพูดว่าจะประกาศวันที่ 1 ก.ค. แต่ใช้เป็นวิธีปฏิบัติออกมา เช่น การให้ผู้ประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เริ่มดำเนินกิจการได้โดยไม่ต้องขายอาหารอย่างเดียว เมื่อถามถึงความคืบหน้าการแก้ไข พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อรองรับหากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรียบร้อยแล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่าใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อควบคู่กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ตราบใดที่ ศบค.ยังไม่ยุบ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีผลอยู่ เรายังทำงานร่วมกันแบบนี้
...
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีมีข้อสังเกตเรื่องหน้ากากอนามัยที่อยู่ในข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า เรื่องนี้เป็นเพียงข้อแนะนำในการปฏิบัติ ไม่ถึงกับว่าถ้าไม่สวมหน้ากากแล้วจะต้องถูกลงโทษ ยกเว้นแต่บางจังหวัดที่เป็นประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดไว้ แต่ไม่ได้บังคับใช้ถึงขั้นลงโทษ ทั่วโลกถอดหน้ากากกันหมดแล้ว แต่เรายังสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เป็นสิ่งที่ดีที่คนร่วมมือโดยไม่ต้องบังคับ ทำให้สถานการณ์การติดเชื้อดีขึ้น วันนี้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักเหลือแค่ 1 พันเศษ จำนวนผู้เสียชีวิตลด นี่คือสัญญาณที่จะนำไปสู่โรคประจำถิ่น
นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งในช่วงบ่ายที่ห้างสยามพารากอน ถึงการอนุญาตเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะในพื้นที่สีฟ้าและสีเขียว 31 จังหวัดว่า การเปิดจะมีมาตรการ ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือดำเนินการ เช่น เปิดไม่เกินเวลา 24.00 น. ไม่มีการใช้ภาชนะร่วมกัน กลุ่มเสี่ยงจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเอทีเค มีการฉีดวัคซีนครบโดส รวมถึงฉีดเข็มกระตุ้น รายละเอียดข้อปฏิบัติอื่นๆ คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆเพิ่มเติม ส่วนสถานประกอบการอื่นๆ หากต้องการสร้างความมั่นใจให้ประสาน อสม.เข้าไปดูแลเพื่อคัดกรองโรคและสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ นายกฯได้กำชับเกี่ยวกับการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะว่าหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด จะมีการใช้กฎหมาย แต่ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวในที่ประชุมว่ามั่นใจว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือ เนื่องจากปิดกิจการมาเป็นเวลานาน คงไม่อยากปิดอีก
เมื่อถามว่า หากเกิดการติดเชื้อในผับ บาร์ คาราโอเกะ จะสั่งปิดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้คนส่วนใหญ่ติดเชื้อไม่มีอาการ อย่างไรก็ตามอยู่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด ส่วนจังหวัดพื้นที่สีเหลืองที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด คงต้องประเมินสถานการณ์จากนี้ไปก่อน ศบค.ยังได้มีมติยกเลิกการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบไทยแลนด์พาสในกลุ่มคนไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยจะพิจารณาถัดไป โดยจะประเมินสถิติการติดเชื้อเข้ามาในประเทศว่า มีมากน้อยแค่ไหน ใช้เวลา 1 เดือน ก่อนจะประเมินอีกครั้ง
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การประเมินเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะในวันที่ 1 มิ.ย. จะมีการติดตามข้อมูลเป็นรายวัน ไม่ห่วงหรือกังวลเพราะสถานการณ์การติดเชื้อรวมถึงภาพรวม ถือว่าดีขึ้นและใกล้เข้าสู่กรอบการเป็นโรคประจำถิ่น หากมีสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎ เป็นอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา กระทรวงยังคงให้ความสำคัญเรื่องการติดตามตัวเลขผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตเป็นหลักเพื่อใช้ในการประเมินสถานการณ์ภาพรวม การเปิดผับบาร์คาราโอเกะเป็นอีก 1 มาตรการท้ายๆของโควิด-19 เมื่อเข้าใกล้กรอบการเป็นโรคประจำถิ่นต่อไปคือการประเมินเรื่องการถอดหน้ากากอนามัย จะใช้หลักเกณฑ์ต่างๆพิจารณา ทั้งเรื่องการเสียชีวิต การป่วยหนัก รวมถึงคลัสเตอร์ใหม่ที่มีเกิดขึ้น ยังไม่ขอระบุช่วงเวลา
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK ปรากฏผลเป็นบวก จึงเข้ารับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR เพื่อยืนยันผลพบเชื้อ ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล คาดว่าจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ในอีกไม่นาน ทั้งนี้ นายดอนได้รับวัคซีนแล้วรวม 4 เข็ม