จ่อยกเลิกไทยแลนด์พาส หลังโควิดซา เตรียมพร้อมเปิดเรียน เข้มออนไซต์

นายกฯแนะโรงเรียน-ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง เตรียมพร้อมเปิดเรียน On-Site ศบค.ไม่บังคับต้องเปิดทุกโรงเรียนย้ำฉีดวัคซีนเด็กให้ได้มากสุด ส่วนมาตรการผ่อนคลาย “อนุทิน” เผยต่อไปจะเริ่มยกเลิกลงทะเบียนไทยแลนด์พาสในกลุ่มคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศ ส่วนต่างชาติพิจารณาระยะต่อไป ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ขาลงต่อเนื่อง ติดเชื้อเหลือ 9.7 พันราย เสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย เปิดด่านพรมแดนไทย-มาเลย์ ยังวุ่นผู้ข้ามแดนยังไม่เข้าใจมาตรการ

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 พ.ค. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 9,790 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย เป็นชาย 37 ราย หญิง 17 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 47 ราย มีโรคเรื้อรัง 6 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 4,300,614 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 28,914 ราย

พญ.สุมนีกล่าวต่อว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 2,990 ราย บุรีรัมย์ 321 ราย ชลบุรี 296 ราย สมุทรปราการ 274 ราย ร้อยเอ็ด 267 ราย สุรินทร์ 254 ราย ศรีสะเกษ 252 ราย ขอนแก่น 240 ราย อุบลราชธานี 200 ราย มหาสารคาม 195 ราย ขณะที่ 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบกำลังรักษาอยู่ใน รพ. มี กทม. 130 ราย นครราชสีมา 88 ราย กาญจนบุรี 66 ราย อุบลราชธานี 61 ราย สมุทรปราการ 57 ราย อุดรธานี 56 ราย ขอนแก่น 51 ราย พิษณุโลก 49 ราย สุพรรณบุรี 45 ราย เชียงใหม่ 42 ราย สถานการณ์ถือว่าทรงตัวและน้อยลง มีเพียง 2 จังหวัดที่เพิ่มขึ้นคืออุดรธานีกับขอนแก่น

ผช.โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า สำหรับยอดฉีดวัคซีนวันที่ 4 พ.ค. ฉีดเพิ่ม 144,809 ราย ทำให้มียอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 รวม 134,175,785 โดส จากข้อมูลการฉีดวัคซีนในส่วนของผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ขึ้นไป จำนวน 12,704,543 ราย ขณะนี้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้ว 5,303,655 โดส เท่ากับ 41.7% ขณะที่เด็กอายุ 5-11 ปี จำนวน 5,150,082 ราย ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ไป 732,349 โดส คิดเป็น 14.2% ช่วงนี้ที่จะมีการเปิดภาคเรียน ศบค.ไม่ได้บังคับว่าต้องเปิดทุกโรงเรียน แต่อยากให้เปิดมากที่สุด ให้ทุกโรงเรียนเตรียมความพร้อมในการเปิดโรงเรียนให้ได้มาตรฐาน หากเด็กคนไหนมีอาการสงสัยให้ตรวจเอทีเค ถ้าพบเชื้อให้รักษาตัวที่บ้าน และไม่มีความจำเป็นต้องตรวจเอทีเคทุกสัปดาห์เหมือนก่อนหน้านี้ แต่ขอย้ำให้เข้ารับวัคซีนให้ได้มากที่สุด

ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ว่า การติดเชื้อเริ่มลดลงเป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ ยอดป่วยหนักเสียชีวิตก็ลดลง ขณะนี้มีความพร้อม 3 พอ ทั้งหมอ เตียง ยาเวชภัณฑ์ เพื่อเดินไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ยังไม่ถึงเป้าการเป็นโรคประจำถิ่น ได้เร่งรัดสาธารณสุขจังหวัดและ อสม. รณรงค์สร้างความเข้าใจให้ประชาชนมาฉีด เพราะ 3 เดือนที่ผ่านมาเห็นชัดผู้ป่วยที่เสียชีวิตกว่าร้อยละ 90 ไม่ได้ฉีดวัคซีน ขณะนี้มีการผ่อนคลายไปเยอะ การเข้าประเทศเหลือเพียงตรวจ ATK ต่อไปจะเริ่มยกเลิกการลงทะเบียนระบบ Thailand Pass ในกลุ่มคนไทยที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ส่วนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาจะพิจารณาระยะต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีกิจกรรมมากมาย การประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับ ศบค.จะพิจารณา แต่การที่ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ ไม่ได้ทำให้เกิดความเดือดร้อน ยังเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน แต่เมื่อมีการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นโดยสมบูรณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็คงไม่จำเป็น เมื่อถามว่า ถ้ายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไทยมีกลไกรองรับกรณีโรคระบาดไว้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ที่ต้องมีไว้ เพราะการเดินทาง การตรวจเชื้อ การแยกกัก การติดตาม การบังคับใช้กฎหมายในการปิดสถานประกอบการต่างๆ จะเอาหมอไปทำหน้าที่เป็นตำรวจไม่ได้ ต้องใช้เจ้าพนักงานที่บังคับใช้กฎหมายได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แนะสถานศึกษา ครู นักเรียน ผู้ปกครอง เตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 เน้นการเรียนแบบ On-Site โดยให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ บูรณาการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ด้วยมาตรการ 3T1V คือ T : Thai Stop Covid Plus (TSC+) สถานศึกษาต้องประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน T : Thai Save Thai (TST) นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ T : Test ตรวจคัดกรอง เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยงหรือมีอาการ V : Vaccine ครู บุคลากร ผู้ปกครอง เด็กอายุ 5-18 ปี ได้รับวัคซีนโควิด-19 ตามเกณฑ์ พร้อมมาตรการ 6-6-7 คือ สร้างความปลอดภัยด้วย 6 หลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทำความสะอาด

นายธนกรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังทำร่วมกับ 6 มาตรการเสริม ได้แก่ ดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว ทานอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออก สำรวจตรวจสอบ กักกันตนเอง และ 7 มาตรการเข้ม ได้แก่ 1.ประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) รายงานผลผ่าน MOECOVID 2.ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย 3.จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ 4.มีอนามัยสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน 5.มีแผนเผชิญเหตุการเตรียมพร้อม School Isolation 6.ดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนให้ปลอดภัยทั้งรถ โรงเรียน 7.School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา ให้สถานศึกษาและครูจัดการเหลื่อมเวลาเด็กทั้งการทานอาหารกลางวันการเล่นร่วมกัน ไม่ให้รวมตัวกันมากเกินไป พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุในกรณีเจอผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงโดยไม่ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียนโดยไม่จำเป็น

ที่ จ.นครราชสีมา ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พบเพียง 1,701 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิต 8 ศพ 1.ชาย อายุ 75 ปี ชาว อ.บัวลาย มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติรับวัคซีน 2.ชาย อายุ 80 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติรับวัคซีน 3.ชาย อายุ 80 ปี ชาว อ.ปักธงชัย มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติรับวัคซีน 4.ชาย อายุ 90 ปี ชาว อ.คง มีโรคประจำตัว มีประวัติฉีดวัคซีน 2 เข็ม 5.ชาย อายุ 57 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติรับวัคซีน 6.ชาย อายุ 79 ปี ชาว อ.โนนสูง มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติรับวัคซีน 7.ชาย อายุ 89 ปี ชาว อ.โนนสูง ไม่มีประวัติรับวัคซีน 8.หญิงอายุ 93 ปี ชาว อ.โนนสูง ไม่มีประวัติรับวัคซีน

ส่วนการเปิดด่านพรมแดนไทยทางใต้ ที่ จ.นราธิวาส วันเดียวกัน มาเลเซียได้เปิดด่านพรมแดนมาเลเซีย-ไทย ทางบก 3 แห่งในพื้นที่เป็นวันแรกมี 1.ด่านพรมแดนเป็งกาลันกูโบ ตรงข้ามด่านพรมแดนตากใบ 2.ด่านพรมแดนรันตูปันยัง ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก 3.ด่านพรมแดนบูกิตบูหงา ตรงข้ามด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อ.แว้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านพรมแดนบูเก๊ะตา เผยว่า บรรยากาศที่ด่านฯ ช่วงเช้า มีชาวบ้านที่เป็นคนไทยจำนวนหนึ่ง ทยอยเดินทางข้ามแดนไปมาเลเซียเยี่ยมญาติ หลังขาดการติดต่อกันนานกว่า 2 ปี เพราะโควิด-19 ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าต้องมีการขออนุญาตข้ามแดนตามเงื่อนไขของมาเลเซียก่อน ส่วนด่านพรมแดนรันตูปันยังไม่มีคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือแม้แต่ชาวมาเลเซีย ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาเลเซีย

ขณะเดียวกัน ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ที่เปิดด่านตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 05.00 น. มีชาวมาเลเซียและชาวไทยที่อยู่ในมาเลเซีย เดินทางข้ามพรมแดนเข้ามาท่องเที่ยว มาเยี่ยมญาติในพื้นที่ อ.เบตง หลังมีการปิดด่านมากว่า2 ปี เพราะโควิด ส่วนที่ด่านบูกิตบือราปิต รัฐเปรัก มาเลเซีย ตรงข้ามด่านเบตงมีการเปิดด่านให้ประชาชนข้ามแดนได้เป็นวันแรก ทำให้บรรยากาศที่ด่านเบตงคึกคัก นายมูหะมัด ฮานาปี อายุ 54 ปี ชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาเบตง เผยว่า ดีใจที่มีการเปิดด่านเพราะจะได้เจอหน้าลูกเมียที่อยู่ใน อ.เบตงเสียทีหลังไม่ได้เจอกันมา 2 ปีแล้ว

วันเดียวกัน วารสารการแพทย์เนเชอร์ พอร์ตโฟลิโอ เผยแพร่ผลการศึกษานักวิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเสตส์ สหรัฐฯ ที่ระบุว่า จากการเก็บข้อมูลผู้ป่วย 130,000 คน จากฐานข้อมูลสาธารณสุขของรัฐบาลและข้อมูลจาก 13 โรงพยาบาลทั่วสหรัฐฯ แบบเชิงลึก ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมของประชากรกลุ่มต่างๆ สถานะการฉีดวัคซีนไปจนถึงการเสียชีวิตในช่วงเวลา 1 ปีหลังจากได้รับเชื้อโควิด ทำให้พบว่า การแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงไม่ต่างอะไรจากเชื้อกลายพันธุ์ต่างๆก่อนหน้านี้ พร้อมแย้งว่าผลการศึกษาในประเทศต่างๆ ไม่ว่าแอฟริกาใต้ อังกฤษ แคนาดา ที่ชี้ว่าโอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าตัวอื่นๆ มาจากการเก็บข้อมูลระยะสั้น วัดผลจากจำนวนผู้เข้าโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่ได้ดูผลต่อเนื่องระยะยาว

ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯทะลุเกิน 1 ล้านคนแล้ว อยู่ที่ 1,023,513 ราย ภายในเวลา 27 เดือน หลังจากมีการยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ ส่วนที่ประเทศจีนรัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนในเขตต่างๆของกรุงปักกิ่งที่ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ทำงานจากบ้านหากเป็นไปได้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ 1 วัน ทางการจีนเพิ่งประกาศระงับบริการรถโดยสารและรถไฟใต้ดินหลายเส้นทาง