หนังสือเล่มสวย “ทอรัก ถักลาย สืบสาย วรรณศิลป์” รวมผลงานศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2528-2562 (ไพลินรุ้งรัตน์ บก.กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2564) ทุกเรื่องล้วนเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติ
งานคอลัมน์ประจำ เกี่ยวข้องกับการเมือง ผมตั้งใจอ่านเรื่อง “หมาตำรวจ” ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เรื่องนี้เป็นงานเขียน เสียดสีล้อเลียน ขั้นบรมครู เขียนเมื่อหกสิบห้าปีที่แล้ว แต่เมื่ออ่านแล้ว เหมือนย้อนมาเกิดขึ้นวันสองวันนี้
เช้า 14 ก.ค. พ.ศ.2500 มีศพชายคนหนึ่งนอนอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดพิบูลบุรี ใครที่แลดูศพมองปราดเดียว ก็ต้องรู้ ชายคนนั้นตายเพราะอดอาหาร เพราะศพนั้นมีหนังหุ้มกระดูกท้องป่อง ตานั้นลืม และลึกกลวง
แต่บ้านเมืองตอนนั้น ใครอดตายก็ขัดคำสั่งรัฐบาล จึงไม่มีใครกล้าพูดว่าเขาอดข้าวตาย เหตุที่เขาถึงแก่ความตายในทางกฎหมาย จึงเป็นเรื่องลึกลับ ร้อนถึงต้องสั่งหมาตำรวจจากกรุงเทพฯมาสืบหาสาเหตุ
เมื่อสิบตำรวจหนุ่มจูงหมามาถึง มีคนมายืนดูศพเนืองแน่นนายอำเภอพิบูลบุรี เป็นคนหนึ่ง
มีเสียงฮือจากคนดู เพราะได้ยินกันว่าหมาตำรวจนั้นแน่นักลงได้ดมกลิ่นคนร้ายแล้ว ก็จะต้องสูดกลิ่นไปจนถึงตัว จับคนร้ายได้ทุกทีไป ไม่มีพลาด
พอถึงศพหมาตำรวจก็ดมศพนั้นจนทั่ว แล้วก็หอนขึ้นทีหนึ่ง
ครั้นแล้วหมาตำรวจจึงสูดกลิ่นที่พื้นดิน และออกเดินสูดกลิ่นเรื่อยไปตามบรรดาคนที่มายืนดู พอมาถึงพ่อค้าชื่อนายฮวด หมาตำรวจก็เห่าขึ้นทีหนึ่ง และลงนั่งแลบลิ้นหอบแฮ่กๆ แหงนหน้าขึ้นจ้องหน้า พลางกระดิกหางอย่างดีใจ
นายฮวดหน้าซีดเผือดกลืนน้ำลาย ตัวเนื้อเริ่มสั่น ขาอ่อนทรุดลง แล้วสารภาพ “ผมเองเป็นผู้ร้ายฆ่าคน”
นายฮวดเป็นพ่อค้าขายของชำในตลาด คนตายเป็นลูกค้าเก่าแก่ซื้อข้าวสาร น้ำปลา พริก กะปิมาตั้งแต่เปิดร้าน จนนายฮวดตั้งตัวได้ จนปีสองปีนี้ ลูกค้าซื้อของน้อยลงๆ
...
เมื่อเร็วๆนี้เขาแต่งตัวขะมุกขะมอม เสื้อผ้าขาดวิ่น มาขอซื้อเชื่อข้าวสาร แต่นายฮวดไม่ขายให้
นายฮวดพูดจบ หมาตำรวจก็เลียหน้านายฮวดทีหนึ่ง แล้วก็สูดกลิ่นต่อไป ถึงนายเกิด เจ้ามือสลากกินรวบ เขาสารภาพ เขาเป็นต้นเหตุชักชวนให้คนตายซึ่งมีฐานะดี แทงหวยจนเป็นขาประจำ เงินทองหมดก็ขายเรือกสวนไร่นา
“ผมเป็นผู้ร้ายฆ่าคน จับผมไปทีเถิด!”
หมาตำรวจสูดกลิ่นไปถึงนายอำเภอ นายอำเภอก็สารภาพ ไปถึงโรงตำรวจภูธรจังหวัดพิบูลบุรี ก็ลงนั่งจ้องหน้าผู้กำกับ ผู้กำกับก็สารภาพ ร่ำรวยมีรถเก๋งราคาแพงขี่ มีตึกสี่ชั้นในตลาด ลูกเมียใส่ทองแดงทั้งตัว เพราะละเลยจับโจรผู้ร้าย สนใจแต่รางวัลนำจับฝิ่นเถื่อน เหล้าเถื่อน ของหนีภาษี ฯลฯ
หมาตำรวจสูดกลิ่นต่อ ไปถึงจวนผู้ว่าฯ ท่านปิดหน้าร้องไห้ สารภาพว่าไม่ดูแลทุกข์สุขราษฎรที่อดอยากยากจน สนใจแต่นักการเมืองขี้ประติ๋วคนสองคน
“การมีคนอดข้าวตายนอนหน้าศาลากลาง ใครจะเป็นผู้ร้ายไปได้ นอกจากผม”
หมาตำรวจดูจะหมดหน้าที่ ในจังหวัดพิบูลบุรีคืนนั้น นายสิบตำรวจหาที่นอนให้มันที่โรงพัก รุ่งเช้านายสิบตำรวจรายงานผู้กำกับ เกิดเรื่องใหญ่หมาตำรวจวิ่งเร็วจี๋ มีทิศทางเข้ากรุงเทพฯ
นายสิบตำรวจรายงานไปสะอึกสะอื้นไป “หมาตัวนี้ผมเลี้ยงมาตั้งแต่มันเป็นลูกหมา มันเป็นหมาตำรวจที่ดีที่สุด แต่ถ้าดมกลิ่นถึงผู้ร้ายแล้ว ปรากฏว่าผิดตัว มันจะหมดความเชื่อถือตัวเอง ใช้ดมกลิ่นไม่ได้อีกต่อไป”
“เอ!แล้วยังไง?” ผู้กำกับยังงงๆ “ผมกลัวมันจะเข้าไปในทำเนียบครับ” นายสิบตำรวจบอก “ก็นั่นน่ะซี! อั๋วถึงได้ถามว่า ลื้อกลัวท่านลาออกรึ!”
“เปล่าครับ” นายสิบตำรวจตอบ “ถึงยังไง ท่านก็ไม่ลาออก และไม่ยอมสารภาพรับผิด แล้วหมาผมมันจะเสียหมาไปเลย ผมเสียดายหมาครับ”.
กิเลน ประลองเชิง