"มานูเอล-นิโคลาส" จัดดินเนอร์หรูที่โรงแรมคาเพลลา

ดินเนอร์ มานูเอล มอนตานา และ นิโคลาส อาชาร์ด จัดงาน MICHELIN GALA DINNER “Thailand Celebrating the New Chapter” โดยมี ทศพร ศิริสัมพันธ์, ยุทธศักดิ์ สุภสร, กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร และ ฐาปน–ปภัชญา สิริวัฒนภักดี มาร่วมงานด้วย ที่โรงแรมคาเพลลา วันก่อน.

จริยธรรมสะท้อนคุณภาพนักการเมืองไทย

หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุในระหว่างเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ได้ร่วมการแก้ปัญหาเรื่องข้าวกันมาตลอดหลายปี ทำให้หลายอย่างมีความคืบหน้า หลายอย่างยังคงต้องทำต่อไป และหลายอย่างยังต้องมีการปรับเปลี่ยน คิดว่าทุกคนคงเข้าใจกันดีว่า เป็นภาระอันหนักของทุกคนที่ต้องดูแล ประชาชน เกษตรกร ชาวนา ให้สามารถอยู่ได้ เพราะวันนี้ก็มี สถานการณ์หลายอย่างที่เพิ่มผลกระทบเข้ามา ทั้งในเรื่องของ แรงงาน สถานการณ์โควิด–19 และ สถานการณ์สงครามความขัดแย้ง โดยแต่ละปัญหามีความยากขึ้นเรื่อยๆ

จากคำพูดของ นายกฯประยุทธ์ ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาล กำลังเผชิญมรสุมปัญหาที่ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งล่าสุดรัฐบาลประกาศจะ ลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ค. นี้เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะสนับสนุน กองทุนน้ำมัน ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เริ่มขยับปรับขึ้นราคา กดทับปัญหา ปากท้อง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น

วันก่อน กลุ่มสมาพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ฯ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนแนวทางปฏิบัติ การแก้ไขปัญหาน้ำมันดีเซล โดยขอให้ รัฐบาล และ กระทรวง พลังงาน ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 1 ปี ปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม โดยตัด ไบโอดีเซล (B100) ออกจากสูตรน้ำมันดีเซล ที่จะช่วยปรับลดราคาน้ำมันดีเซลได้ 1.50–2.00 บาท เป็นเวลา 1 ปี ขอให้ ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เหลือ 20 สตางค์ ยกเลิกการใช้ฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูปโรงกลั่นสิงคโปร์ เนื่องจากมีค่าขนส่งและค่าประกันภัยรวมอยู่ด้วย และพิจารณาปรับเปลี่ยนการบริหารงาน ในตำแหน่ง รมว.พลังงาน ของ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากผลกระทบราคาน้ำมันได้

ประสา “ธนูเทพ” ดูข้อเสนอทั้งหมดแล้ว ก็ถือว่า เหมาะสมต่อสถานการณ์ แต่ รัฐบาล จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องหรือไม่ ก็อยู่ที่มุมมองว่าเห็นความเดือดร้อนของ ประชาชน เป็นเรื่องสำคัญ หรือผลประโยชน์ของ คนบางกลุ่มบางพวก สำคัญกว่า...งานนี้คงต้องรอวัดใจกัน นะจ๊ะ

อืม...ในห้วงที่ ทุกพรรคการเมือง มีการปรับทัพ เตรียมรองรับสถานการณ์การเลือกตั้งครั้งหน้า ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ โดยให้ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ แทน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคไปเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย...พร้อมทั้งแต่งตั้ง อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และ ผอ.พรรค ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เป็นกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และ ประสาน หวังรัตนปราณี เป็นกรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ และแนวทางการดำเนินงานของพรรคพลังประชารัฐให้เข้มแข็ง เป็นความหวัง มีความศรัทธาและเป็นที่พึ่งพิงของประชาชน...แน่นอนว่า การแต่งตั้ง สมศักดิ์ เทพสุทิน มาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ถูกฝาถูกตัว เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ที่ พรรคพลังประชารัฐ ต้องเตรียมรับมือกับศึกเลือกตั้งในภาวะกระแสพรรคตกต่ำ ถ้าได้คนที่เชี่ยวชาญการเมือง ทันเกมในสนามเลือกตั้ง เข้าใจถึง ความต้องการ ที่แท้จริงของประชาชน การกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางหาเสียงหาคะแนน จึงจะเดินไปถูกทิศถูกทาง และช่วยให้กระแสพรรคกระเตื้องขึ้น แต่จะทันการณ์ หรือไม่ ต้องติดตามด้วยความระทึก

ฮัดชิ้ว...เรื่องอื้อฉาวกรณี ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ ถูกดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืน กลายเป็นวิบากกรรมของพรรค ประชาธิปัตย์ จากที่เผชิญภาวะเลือดเก่าไหลออกอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ซ้ำ แกนนำหลายคนต่างไขก๊อกชิ่งหนี...ล่าสุด กนก วงษ์ตระหง่าน ได้ขอลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้บริหารระดับสูงของพรรคคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด และได้เข้าสู่การพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว แต่สาธารณชนแสดงการไม่ยอมรับ ด้วยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อศีลธรรมอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อมาตรฐานความรับผิดชอบทาง ศีลธรรม ของ ผู้บริหารพรรค โดยรวม และจากการดำเนินการของพรรคต่อเรื่องนี้ โดย หัวหน้าพรรค กลับสวนทางกับความคาดหวังของสาธารณชนในเรื่องสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ตนจึงขอลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค...ขณะที่ มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ตามไปอีกคน แม้ไม่ได้ระบุเหตุผลในการลาออก แต่ก็พอเดาได้ว่าคงไม่พ้นปมเดียวกัน...เรื่องจริยธรรมสะท้อนถึงคุณภาพนักการเมือง ใครเด่นใครด้อยดูได้ไม่ยาก จบข่าว

สังคมทั่วไป...ราชิต ไชยรัตน์ กรรมการสภาวิชาชีพบัญชี ด้านการบัญชี เป็นวิทยากรบรรยายหลักสูตร “Transformative Accounting ปรับเปลี่ยนการปฏิบัติงานด้านบัญชีด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” ที่ห้องวีไอพีแกรนด์พาโนรามา โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ 29 เม.ย. 09.00 น.

“ธนูเทพ”