สิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ยอดตายในช่วง 5 วันรวม 204 ศพ ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน เชียงใหม่นำโด่งยอดอุบัติเหตุสะสมและผู้เสียชีวิต “อนุพงษ์” กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนทยอยกลับเข้ากรุงเทพฯ ส่วนการจราจรถนนมิตรภาพติดหนึบ ตำรวจทางหลวงต้องเปิดเส้นทางพิเศษระบายรถเป็นระยะ สถานีหัวลำโพงคาดคนกลับเข้ากรุงวันละ 45,000 คน

ประชาชนเริ่มทยอยกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ในวันนี้นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ร่วมประชุมฯผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 จ.เชียงใหม่ สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย. เป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 277 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 263 คน ผู้เสียชีวิต 44 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 39.35 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 28.52 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถ จยย. ร้อยละ 77.70 รถปิกอัพ 11.87 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 32.85 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 39.35 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 79.42 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 20.01-21.00 น. ร้อยละ 8.30 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 22.48

...

นายนิรัตน์กล่าวว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (16 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (5 ราย) เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,897 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,311 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 394,460 คัน ทั้งนี้ มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,111 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 18,323 ราย ไม่มีใบขับขี่ 17,729 ราย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 11-15 เม.ย.2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (60 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (58 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (8 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่กำลังทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนา และกลับจากการท่องเที่ยวร่วมกับครอบครัวในช่วงวันหยุดต่อเนื่องเทศกาลสงกรานต์ 2565 และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันดูแลอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในการเดินทางสัญจรให้เป็นไปด้วยความปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายจราจร และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากสถิติการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา (วันที่ 11-15 เม.ย.) พบว่า สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุยังคงเกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รองลงมาคือ ดื่มแล้วขับ และการตัดหน้ากระชั้นชิด ตามลำดับ โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถ จยย. พร้อมทั้งเน้นย้ำไปยังศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทุกระดับ เร่งรณรงค์ประชา สัมพันธ์สร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนให้ประชาชนได้ตระหนัก และระมัดระวังในการเดินทางกลับอย่างเข้มข้น

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ เน้นย้ำไปยังศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์ และแจ้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนทุกระดับ เร่งสร้างการรับรู้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอันตรายจากฟ้าผ่า ระหว่างวันที่ 16- 18 เม.ย.นี้ หากเกิดกรณีต้นไม้ล้มกีดขวางเส้นทางจราจรหรือถนนชำรุดเสียหาย ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่เร่งแจ้งเตือน จัดทำเครื่องหมายที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้หลีกเลี่ยงเส้นทาง พร้อมเร่งซ่อมแซม ปรับปรุงแก้ไข เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการสัญจรของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการขอรับความช่วยเหลือสามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย โทร.1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในวันที่ 15 เม.ย. มีทั้งหมด 2,073 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,948 คดี คดีขับเสพ 124 คดี คดีขับรถประมาท 1 คดี มีตัวเลขสถิติยอดรวม 5 วัน ของ 7 วันอันตราย จำนวน 5,404 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 4,774 คดี คิดเป็นร้อยละ 88.34 คดีขับเสพ 611 คดี คิดเป็นร้อยละ 11.31 คดีขับรถประมาท 19 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.35 จ.สุรินทร์ยังคงครองแชมป์คดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 313 คดี รองลงมา จ.บุรีรัมย์ 284 คดี และกรุงเทพฯ 251 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 5 ของ 7 วันอันตรายปี 2564 พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุราจำนวน 1,646 คดี และปี 2565 จำนวน 1,948 คดี เพิ่มขึ้น 302 คดี คิดเป็นร้อยละ 15.5

...

ส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับหลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ ที่ จ.สระบุรี การจราจรช่วงถนนมิตรภาพจาก อ.มวกเหล็ก อ.แก่งคอย ไปจนถึงตัวเมืองสระบุรี รถหนาแน่นและชะลอตัวเป็นระยะ ตำรวจทางหลวงหินกอง จ.สระบุรี เปิดเส้นทางพิเศษจากช่วง อ.แก่งคอยไปจนถึงตัวเมืองสระบุรี เพื่อระบายการจราจร ขณะเดียวกัน รถที่วิ่งเข้าสู่ถนนพหลโยธินรถมีจำนวนมากเช่นกัน ตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษช่วง กม.ที่ 99 ไปจนถึงหลัก กม.ที่ 85 และช่วง กม.ที่ 74 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) บรรยากาศ ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเริ่มมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบางส่วนทยอยเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือกลับเข้า กทม. หลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์อย่างต่อเนื่อง อาทิ ขบวนรถธรรมดาจาก อ.เด่นชัย จ.แพร่ ขบวนรถเร็วจาก จ.หนองคาย ขบวนรถด่วนพิเศษจาก จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังมีขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 1 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถ 934 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เดินทางกลับมามีการขนสัมภาระและสิ่งของต่างๆ รวมถึงของอุปโภคบริโภคเพื่อมาเป็นเสบียงลดค่าครองชีพ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อย่างน้อย 1-2 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและเจ้าหน้าที่จิตอาสาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศ ไทยคาดว่าผู้โดยสารจะทยอยเดินทางกลับเข้า กทม.ผ่านสถานีรถไฟกรุงเทพ ในวันที่ 16-17 เม.ย.วันละ 45,000 คน

...

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จัดงานประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสนระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย. ผู้มาร่วมงานปกติจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนมาร่วมก่อพระทรายประมาณ 50 กอง บรรยากาศยังคงคึกคัก นักท่องเที่ยวให้ความสนใจถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก