วันที่ 13 เมษายน 2565 “วันสงกรานต์” หรือวันขึ้นปีใหม่แบบไทยๆของเรา เวียนมาถึงแล้วนะครับ...ถือเป็นวันดีๆที่คนไทยเรารอคอยอย่างยิ่งวันหนึ่ง และเป็นวัฒนธรรมประเพณีของคนไทยมาแต่โบราณกาลที่จะมีการรดน้ำดำหัวขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ สรงน้ำพระอาราธนาขอพรจากพระ ตลอดจนเล่นน้ำสาดน้ำซึ่งเสมือนการสาดพร สาดความสุขให้แก่คนไทยด้วยกัน
แต่เนื่องจากปีนี้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น เทียบกับปีที่ผ่านๆมายังมีการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก
รัฐบาลท่านจึงขอร้องให้พวกเราชาวไทยดำเนินการตามประเพณีไทยด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังอีกปีหนึ่ง ดังมีคำประกาศ มีกฎ มีเกณฑ์ และข้อขอร้องต่างๆออกมาเป็นรายวันล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว
ผมเห็นด้วยกับคำขอร้องของรัฐบาลครับ เพราะดูๆแล้วสถานการณ์โควิด-19 ของเรายังน่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะฉะนั้นก็ขอให้สืบสานและรักษาประเพณีสงกรานต์ของเรากันอย่างสำรวม อย่างระมัดระวังต่อไปอีกปี
หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่สถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น...รอไว้ให้วันนั้นมาถึงเราค่อยสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยงอีกครั้งก็แล้วกัน
แม้ว่าเราจะต้องงดหรือลดการดำเนินการอะไรบางสิ่งบางอย่างที่เป็นส่วนประกอบของเทศกาลลงบ้างดังที่กล่าวไว้แล้ว...แต่ที่เรายังสามารถทำได้อย่างเต็มที่ก็เห็นจะเป็นการอวยชัยให้พรซึ่งกันและกันนั่นเอง
โดยเฉพาะการอวยพรด้วยการส่งการ์ดให้แก่กันและกัน ส่งไลน์ ส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ผ่านทวิตเตอร์ให้แก่กันและกัน...ยังเป็นสิ่งที่ทำได้และสมควรหันมาใช้วิธีนี้ให้มากขึ้น
ก็อย่าลืมส่งคำอวยพรในวันปีใหม่ไทยของเราสู่กันและกันผ่านสื่อโซเชียลที่ว่าด้วยนะครับ ถือเป็นการประยุกต์ประเพณีไทยให้เข้ากับ เทคโนโลยีสมัยใหม่อีกทางหนึ่ง
...
สำหรับผมซึ่งมีคอลัมน์อยู่ในสื่อเก่าๆ ประเภทหนังสือพิมพ์รายวัน สามารถเขียนข้อความได้ยาวๆ...ก็เลยถือโอกาสในวันมงคลวันนี้เขียนอวยพรแก่ท่านผู้อ่านแบบยาวๆตามธรรมเนียมควบคู่ไปด้วย
โดยจะขออนุญาตนำคำอวยพรของพระรุ่นใหม่มาฝากท่านผู้อ่านก็แล้วกัน เพราะน่าจะเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างดียิ่ง
สมัยก่อนเราได้ยินพระท่านให้พรด้วย “จตุรพิธพรชัย” คือ “พร 4 ประการ” มีแค่ อายุ วรรณะ สุขะ แล้วก็ พละ เท่านั้น
แต่ในระยะหลังๆมานี้ผมเคยได้ยินพระภิกษุมีชื่อเสียงบางท่านเติมคำว่า “โภคะ” ที่แปลว่า “ทรัพย์สมบัติ” หรือ “โภคทรัพย์” ไปด้วย กลายเป็นพร 5 ประการ หรือ “เบญจพิธพรชัย”
ได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และ โภคะ อันหมายความว่า นอกจากจะมีอายุยืนยาว มีผิวพรรณผ่องใส มีความสุข มีพลานามัยแข็งแรงแล้ว ก็ขอให้มีทรัพย์สมบัติด้วย จึงจะครบถ้วนในทุกมิติ
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับสำหรับการอวยพรด้วยการเพิ่มพรที่ 5 ว่าด้วย “โภคะ” เข้าไปด้วยสำหรับวันสงกรานต์ปีนี้
เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมของโหราศาสตร์ใน “ประกาศสงกรานต์ปี 2565” หรือมองจากมุมของนักเศรษฐศาสตร์ในการคำนวณ GDP ของปีนี้...ปรากฏว่าทั้ง 2 ศาสตร์มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน
ในประกาศสงกรานต์ท่านบอกว่า ปีนี้จะเข้าเกณฑ์น้ำน้อย เกิดวิบัติในไร่นา จะเจอทั้งฝนแล้ง และพวกกิมิชาติ (ตัวด้วง ตัวแมลง) ทำให้ได้ผลเพียงครึ่งเดียวและเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง
แปลว่าพี่น้องเกษตรกรของเราจะต้องประสบปัญหาทั้งเรื่องความแห้งแล้ง และศัตรูพืชต่างๆ จะมีผลผลิตเสียหายไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายก็พยากรณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า เพราะผลจากโควิด-19 ก็ทำให้ถดถอยเยอะอยู่แล้ว ยังมีผลจากสงครามรัสเซีย ยูเครน ทำให้น้ำมันแพง วัสดุการเกษตรแพง จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวยากลำบากขึ้นไปอีก
มีความหมายว่า เศรษฐกิจไทยเราปีนี้จะหนักหนาสาหัสไม่ว่าจะมองจากเศรษฐศาสตร์หรือโหราศาสตร์ก็ตาม
ด้วยเหตุนี้คำอวยพรด้วย “เบญจพิธพรชัย” จึงเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะการเติมพรว่า “โภคะ” ขอให้มีโภคทรัพย์ต่างๆเข้ามาด้วยจะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อนได้เป็นอย่างดียิ่ง
ขอท่านผู้อ่านทุกท่านจงได้รับพรทั้ง 5 ประการ มีอายุยืนนาน มีผิวพรรณแจ่มใส มีความสุขทั้งกายและใจ มีพลานามัยที่สมบูรณ์ มีโภคทรัพย์เพียงพอแก่การใช้สอยนะครับ
รวมทั้งขอให้ผ่านวิกฤติโควิด-19 และวิกฤติเศรษฐกิจที่รอเราอยู่ข้างหน้าไปได้โดยราบรื่นและปลอดภัย จงทุกประการเทอญ.
“ซูม”