ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาจนถึงบัดนี้ และน่าจะทะลุไปถึงเดือนพฤษภาคมเป็นอย่างน้อย...ร้านไอศกรีมเชื้อชาติสหรัฐอเมริกาที่มาลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 20 ปี จนโด่งดังมากจะมีเมนูที่ผมรอคอยอยู่เมนูหนึ่ง
เป็นเมนู “ไอศกรีมมะม่วง” น่ะครับ...โดยจะนำมะม่วงไทยที่มีชื่อเสียงและคนไทยชอบมากเป็นอันดับ 1 ได้แก่ “มะม่วงอกร่อง” มาทำไอศกรีมแล้วก็ตั้งชื่อว่า “มะม่วงอกร่องทอง”
อย่างของปีนี้ก็ออกมาเรียบร้อย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์อย่างที่ว่า
สมาชิกสายหวานอ่านมาถึงตรงนี้คงจะทราบดีว่าผมกำลังเขียนถึงไอศกรีมแบรนด์ “สเวนเซ่นส์” จากซานฟรานซิสโกนั่นเอง เพราะเป็นไอศกรีมแบรนด์นอกเพียงเจ้าเดียวที่ประยุกต์เมนูของเขาให้เข้ากับรสนิยมและวัฒนธรรมไทยมาโดยตลอด บางครั้งก็มีไอศกรีมมะยงชิด บางครั้งก็มีไอศกรีมทุเรียนหมอนทอง เท่าที่ผมพอจะจำได้
ทุกครั้งที่สินค้าแบรนด์นอกระดับโลก โดยเฉพาะพวกของกินทั้งหลายที่มาขายเมืองไทยแล้วจะประยุกต์เมนูให้เป็นไทยๆ ผมจะนึกถึงตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องสั้น “หลายชีวิต” ของ “ท่านอาจารย์หม่อม” ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อยู่เสมอ
ได้แก่ พระเอกลิเกชื่อ “เจ้าผล” ที่เป็นลิเกโด่งดังของต่างจังหวัดเดินทางจะมาประกวดลิเกต่อต้านคอมมิวนิสต์ในยุคโน้น และก็จมน้ำตายไปพร้อมๆกับตัวละครอื่นๆของ “หลายชีวิต” นั่นแหละครับ
เจ้าผลเป็นลิเกที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในต่างจังหวัด เพราะนำกลยุทธ์การตลาดว่าด้วยการทำตนให้เป็นส่วนหนึ่งของตลาดหรือสังคมที่เขาไปปรากฏตัวออกมาใช้เสมอๆในการแสดง
ก่อนขึ้นเวทีเขาจะสืบเสาะก่อนว่าผู้คนในหมู่บ้านนั้นชอบอะไร? เกลียดอะไร? หรือกำลังพูดถึงใคร? และเมื่อได้ข้อมูลแล้วก็จะเอาไปร้องในกลอนลิเกแบบด้นกลอนสด เอ่ยถึงเรื่องราวนั้นๆ
...
ชาวบ้านได้ยินแล้วก็เฮก็ฮา และพลอยทึกทักว่าเจ้าผลเป็นคนบ้านเดียวกันไปด้วย ไปเล่นที่ไหนก็มีแฟนมากที่นั่น
ก็เหมือนไก่ทอดสหรัฐฯ เคเอฟซี พอมาอยู่เมืองไทยก็มีเมนูข้าวยำไก่แซ่บ เป็นเมนูเด็ด เพื่อมัดใจคนไทย...ในขณะที่แฮมเบอร์เกอร์ แมคโดนัลด์ ก็มีเมนู ข้าวกะเพราไก่ ที่หลายๆท่านอาจจะเคยลิ้มลองมาแล้ว
ไอศกรีม สเวนเซ่นส์ ก็เช่นกันใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ “เจ้าผล” พระเอกลิเกของอาจารย์หม่อมมาตลอด จัดทำเมนูหวานที่อิงรสนิยมคนไทยมาแล้วหลายเมนู รวมทั้งเมนูมะม่วงอกร่องดังกล่าว
ทำให้แบรนด์นอกเหล่านี้ประสบความสำเร็จสูงมากในประเทศไทย
ก็ดีใจครับที่เขามาลงทุนในบ้านเราแล้วประสบความสำเร็จ เพราะในทางเศรษฐกิจนั้นประเทศไทยเราก็ได้ประโยชน์ด้วยจากการจ้างงานหลายๆระดับ รวมทั้งมีโอกาสจำหน่ายผลผลิตในประเทศเพื่อเป็นวัตถุดิบควบคู่ไปด้วย
ที่ผมหยิบยกเรื่อง “มะม่วงอกร่องทอง” มาเขียนถึงในวันนี้ทางหนึ่งก็เพื่อจะขอบคุณแบรนด์นี้ที่รู้จักวิธีทำมาหากินกับคนไทย เอาใจคนไทยผลิตเมนูประยุกต์แบบไทยๆ ดังได้กล่าวไว้แล้ว
อีกทางหนึ่งก็เพื่อจะฝากผู้บริหารสเวนเซ่นส์ไว้ด้วย ขอให้ท่านนำเมนูนี้ไปเผยแพร่ในสาขาต่างประเทศอื่นๆของท่านด้วย เช่น ในสิงคโปร์ มาเลเซีย ล่าสุดก็คือ อินเดีย ฯลฯ เป็นต้น
ผมเดาว่าท่านก็อาจจะมีเมนูของท้องถิ่นเพื่อเอาใจคนท้องถิ่นนั้นๆ แต่ถ้าท่านจะเสริมเมนู “มะม่วงอกร่องทอง” หรือ “ทุเรียนหมอนทอง” เข้าไปด้วยแล้วประชาสัมพันธ์หน่อยว่าเป็น “เมนู” สุดยอดจากประเทศไทยให้ประเทศในเอเชียอื่นๆลิ้มลอง ก็จะขอบคุณอย่างยิ่ง
ช่วงนี้เรากำลังปฏิบัติการเชิงรุกด้าน “สินค้าวัฒนธรรม” ซึ่ง ผมก็เห็นว่า ไอศกรีมมะม่วงและทุเรียนน่าจะเข้าข่ายสินค้าวัฒนธรรม ที่สามารถโปรโมตได้ จึงขอฝากบริษัทสเวนเซ่นส์ไว้ด้วย
มีนักท่องเที่ยวที่รู้จักประเทศไทยจากร้านไอศกรีมของท่านในต่างแดนอยากมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นเท่าไร สาขาต่างๆในเมืองไทยของท่านก็จะยิ่งขายดีขึ้นไปอีกเท่านั้น
นะครับ ระยะแรกเริ่มที่ประเทศในกลุ่มเอเชียก่อน ส่วนในระยะยาวจะไปที่ซานฟรานซิสโกหรือที่สาขาอื่นๆในอเมริกาและทั่วโลกด้วยหรือไม่? ก็สุดแต่ท่านจะพิจารณาก็แล้วกัน.
“ซูม”