ก่อนเกิดเรื่องใหญ่ คนสมัยนี้ มีชุดความรู้ เอามาวิเคราะห์วิจัย ทำนายได้...ไม่ค่อยพลาด ทำนองเดียวกับกรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศประจำวัน

ย้อนไปราวแปดสิบปีที่แล้ว...ผู้คนสมัยนั้น มักอาศัยคำบอกเล่า จากผู้รู้ ผู้เฒ่า และหลายๆครั้งอาศัยลางจากสัตว์...ช่วยบอกเหตุล่วงหน้า อะไรจะเกิดขึ้น

“พลูหลวง” บันทึกไว้ในหนังสือ “เคล็ด ลาง อาถรรพณ์” (สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง พิมพ์ครั้งที่ 10 พ.ศ.2541) เรื่องผึ้งรู้ตัวล่วงหน้า ก่อนน้ำจะท่วมใหญ่

ปี 2485 ขุนศรีศรากร (ชลอ ศรีศรากร) เดินทางไปจังหวัดภาคเหนือ หาซื้อรังผึ้ง แต่หาซื้อไม่ค่อยได้ ชาวบ้านบอกแล้งปีนี้ไม่มีน้ำผึ้งขายให้เพียงพอกับตลาด หาซื้อได้ยาก ที่ซื้อได้ก็ราคาแพงมาก

ปีก่อนผึ้งทำรังมากมายในพื้นที่ราบ แต่ปีนี้ผึ้งหนีไปทำรังไกลถึงเชิงเขาสูง คนอาชีพหารังผึ้งจึงลำบาก นอกจากต้องเหนื่อยแรงเดินทางไกล แล้วยังได้ผลน้อย

ผู้เฒ่าเล่าว่า ผึ้งมีญาณหยั่งรู้ล่วงหน้า ว่าปีไหนน้ำจะท่วมใหญ่ เพราะเมื่อน้ำท่วมแล้วต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ผึ้งเคยอาศัยทำรวงรัง ก็จะตาย มันจึงหนีไปหาพื้นที่สูงๆที่น้ำท่วมไม่ถึงไว้ก่อน

เรื่องเล่า เรื่องต่อมา ขุนศรีศรากร ฟังจากชาวบ้านเหมือนกัน

วันหนึ่งขี่รถจักรยานไปอำเภอทุ่งยั้ง ทางไปพระแท่นศิลาอาสน์ ห่างตัวเมืองราว 4 กม. เจอลุงชราอายุ 75 ปี นั่งอยู่หน้าบ้าน ก็หยุดจักรยานเข้าไปคุย

“ปีนี้ ลุงคิดว่าน้ำจะท่วมใหญ่” ลุงชราบอก “ชั่วอายุลุง 75 ปี เคยเจอน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 2460 น้ำท่วมถึงหน้าบ้าน ปีนี้ (2485) น้ำท่วมถึงหน้าบ้าน ลุงจึงแน่ใจ น้ำจะท่วมใหญ่อีกครั้ง”

ขุนศรีศรากร ประมวลประสบการณ์ น้ำท่วมใหญ่สองครั้ง ห่างกัน 25 ปี จึงมีข้อสันนิษฐานว่า น้ำจะท่วมใหญ่ทุกรอบ 25 ปี

...

นี่คือคำพยากรณ์จากประสบการณ์ผู้เฒ่า ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมา จนพอจะบอกเหตุล่วงหน้าได้

อีกเรื่อง “พลูหลวง” อ้างพระนิพนธ์ ม.จ.หญิง พูนพิศมัย ดิศกุล ในหนังสือชื่อ “เมื่อปีนังแตก” เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2484

เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาอากาศมืดมน เหมือนฝนจะตก แต่ร้อน ลมก็ไม่มีแม้แต่นิดเดียว ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ

จนหญิงเหลือร้องว่า “เอ๊ะ ร้อนระงมลมแล้งไม่พานพัด เงียบสงัดใบไม้ก็ไม่ไหว”

สักครู่ก็ได้ยินเสียงเรือบิน ผ่านไปทางใต้สูงๆ 2 ครั้ง เสียงคนรถบอกว่า เขาว่าวันนี้แม่ทัพญี่ปุ่นจะมาตรวจทางปีนัง เวลานี้ทหารมาแล้ว 300 คน เป็นพวกไต้หวันเป็นส่วนมาก

พอบ่ายราว 14 น. เสียงจักจั่นร้องแซ่ไปหมดทั้งสวน จนรู้สึกหนวกหู ครู่เดียวก็มีขบวนรถชักธงญี่ปุ่นคันหนึ่งหน้ารถ ผ่านหน้าบ้านไป 3-4 คัน ทุกคนที่แลเห็น เห็นจุดแดงในธงเป็นสีดำหมด

สักครู่ ...ครู่ใหญ่ เจ้าจักจั่นก็หยุดร้อง และไม่ร้องต่อมาอีกเลย

น่าประหลาดว่า ทำไมจักจั่นมันจึงรู้หนอ ว่าแม่ทัพเขาจะมา จึงได้เล่นเพลงสรรเสริญกันแซ่ซ้อง

เรื่องในพระนิพนธ์ ม.จ.หญิง พูนพิศมัย...อาจารย์พลูหลวง ตั้งใจจะบอก เหมือนผึ้ง รู้ก่อนคนเป็นนาน ปีไหนน้ำจะท่วมใหญ่ “จักจั่น” มันก็มีญาณรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แม่ทัพญี่ปุ่นจะมาเยือนดินแดนในเขตยึดครอง

บ้านเมืองของเรา ตอนนี้มีแต่เสียงผู้คนด้วยกัน ออกเสียงเซ็งแซ่ อยากไล่ให้ใครบางคนไปๆให้พ้นหน้า

คนที่อยู่ในบ้านสวน เงี่ยหูฟังเสียงจักจั่นเอาไว้บ้างนะครับ ...รายนี้แม่นชะงัด ในเรื่องรู้ว่า เวลาไหน นายคนใหม่จะมา ชาวบ้านแบบเราๆ จะได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจต้อนรับไว้ทัน.

กิเลน ประลองเชิง