3 ผู้นำหญิงของนินจาแวน ประเทศไทย ร่วมเผยเคล็ดลับการทำงาน ใน 3 บทบาทสำคัญ ทั้งด้านคอมเมอร์เชียล การบริหารการเงินการลงทุน และการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำ ชี้ทีมบริหารพร้อมขับเคลื่อนการทำงานกับทุกฝ่ายอย่างเป็นระบบ มุ่งเป้าเดียวกัน คือ ร่วมผลักดันให้นินจาแวน นั่งแท่นหนึ่งในผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในไทย
คุณนริศรา คงเจริญสุขยิ่ง Head of Commercial บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย ผู้นำหญิงผู้ทำงานคร่ำหวอดและมีประสบการณ์ด้านการขาย การตลาด และการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ามากว่า 15 ปี เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบดีว่า ธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ช มีการเติบโตสูงมากอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตในอัตราเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 25% ต่อปี เรียกว่าเป็น "เรด โอเชี่ยน (Red Ocean)" เลยทีเดียว ดังนั้น ความท้าทายในการทำงานด้านนี้ จึงเน้นหนักไปในเรื่องการสร้างคอนเน็กชั่น (Connection) สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางการค้า คู่ค้าและลูกค้าเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการยอมรับ สามารถนำบริการของเราให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มพันธมิตรทางการค้า (Marketplace) สร้างการรู้จักและเข้าใจในความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำงานของนินจาแวน จนสามารถสร้างความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งได้ ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทฯ ถึง 300% ในปีนี้เป็นปีที่ นินจาแวน ต้องการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มที่เป็น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หรือที่เรียกว่า Social sellers มากขึ้น และสร้างการรู้จักในกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วย ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะพัฒนาการทำงานของบริษัทฯ ให้สามารถตอบรับการตลาดเชิงรุก ทั้งด้านการขยาย Infrastructure การพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัยเทียบเท่าหรือดีกว่าผู้ให้บริการในลักษณะเดียวกัน เพราะเราคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน ปรับปรุง และขยับขยาย ให้ก้าวทันกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองผู้บริโภคให้ดีที่สุด
คุณนริศรา กล่าวทิ้งท้ายว่า การขับเคลื่อนองค์กรให้ไปสู่เป้าหมายของบริษัทฯ นั้นไม่มีข้อจำกัดเรื่องเพศ ขอเพียงได้รับโอกาสและใช้โอกาสนั้นในการนำศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเองออกมาและมุ่งมั่นทำให้ดีที่สุดเท่านั้น
ทางด้านคุณกมลลักษณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา Communications Manager บริษัท นินจาแวนประเทศไทย ผู้นำหญิงอีกท่านที่มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์มากว่า 10 ปี กล่าวว่าการสื่อสารและการสร้างแบรนด์ เป็นสิ่งท้าทายต่อแบรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ต้องถือว่า นินจาแวนเป็นบริษัท Start Up ที่เกิดใหม่ในประเทศไทย แม้ว่าเราจะอยู่ในอุตสาหกรรมนี้และเป็นผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ตาม จึงมีความจำเป็นที่ต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยได้รู้จัก เชื่อมั่นและเชื่อถือศรัทธาในแบรนด์และการทำงานของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนี้มีจำนวนคู่แข่งสูงมาก ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในแบรนด์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
แนวทางการทำงานจึงเน้นในเรื่อง “3 C” คือ Confidence, Creativity, และ Consistency ที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องมั่นใจ (Confidence) ทั้งในความสามารถที่เรามีและในงานที่ทำ เพื่อจะได้นำประสบการณ์และความรู้ที่มีมาบริหารจัดการให้ก้าวผ่านความท้าทายต่างๆ ที่มีอยู่และทำให้สำเร็จได้ และแน่นอนที่สุดต้องอาศัย ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ผลิตชิ้นงานและเครื่องมือสื่อสารให้เตะตา โดนใจ ให้คนพูดถึงแบรนด์อย่างกว้างขวางให้ได้ และท้ายสุด คือ เราเน้นการทำงานที่ต่อเนื่อง (Consistency) เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความมั่นใจ ต้องรู้จักบริหารเนื้อหาที่จะสื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นตัวตน ข้อดีของแบรนด์และประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากการใช้แบรนด์ของเรา
วันนี้โลกและเทคโนโลยีต่างๆ เปลี่ยนไปมาก เราต้องตามเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยให้ทัน และรู้จักใช้ช่องทางการสื่อสารให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างในปีนี้ เป็นครั้งแรกของนินจาแวนที่เราได้ทุ่มเงินกว่า 100 ล้านบาทในการทำภาพยนตร์โฆษณาและสร้างการรู้จักให้แก่แบรนด์ โดยมีคุณวู้ดดี้ มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์และร่วมทำกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ให้กับแบรนด์ของเรา นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารผ่านช่องทางบิลบอร์ดทั่วประเทศ และทุกช่องทางในโซเชียลมีเดียทั้งของเราและของคู่ค้าของเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก เพจ ไลฟ์แชต อินสตาแกรม และ TikTok ซึ่งเรามั่นใจว่าภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อว่า การทำงานในวันนี้ ไม่มีข้อจำกัดหรือการด้อยค่าในเรื่องเพศแล้ว เพราะองค์กรจะวัดความสำเร็จของงานด้วยความสามารถและผลความสำเร็จของงานเป็นสำคัญ
ผู้บริหารหญิงคนสุดท้าย คุณพรนิภา เต่าทอง Head of Finance บริษัท นินจาแวนประเทศไทย ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานด้านบริหารการเงินการลงทุนมากว่า 10 ปี เช่นกัน ได้ให้แนวคิดการทำงานด้านการเงินการลงทุนว่า บทบาทสำคัญในหน้าที่นี้ คือการทำให้เป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้เป็นไปอย่างราบรื่นไม่สะดุด ในปีที่ผ่านมาเราเติบโตมากกว่า 300% และในปีนี้เราตั้งเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 200% เราต้องมีการบริหารจัดการในองค์รวม เพราะการปฏิบัติการทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการบริหารจัดการด้านการเงินการลงทุนทั้งนั้น ทั้งการบริหารทรัพยากรในองค์กร เงินทุน เทคโนโลยี รวมถึงบุคลากรด้วยเพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ให้ไปในทิศทางเดียวกัน
บริษัท นินจาแวน เป็นบริษัท มัลติเนชั่นแนล ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลายประเทศทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนามและประเทศไทย โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน มีทิศทางการทำงานที่สอดคล้องกันทั้งภูมิภาค ความท้าทายสำคัญ คือ เราต้องสามารถควบคุมสถานการณ์การผันแปรของปัจจัยภายนอกให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบการทำงานของเรา โดยปัจจัยหลักที่อาจจะมีผลกระทบไม่เพียงแต่บริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้นแต่ส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมในวงกว้างโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีเติบโตสูง และได้รับผลอานิสงส์เชิงบวกจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ e-commerce อย่างอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ คือ ความผันผวนของราคาน้ำมัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ หรือสถานการณ์ COVID-19 และการแข่งขันในเชิงคุณภาพที่นำมาซึ่งประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างเราโดยตรง ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ
สิ่งที่เรากำลังทำอยู่คือ การเตรียมความพร้อมของบุคลากร การเปิดให้บริการ 365 วันไม่มีวันหยุด การขยายจุดบริการให้มากขึ้น และมุ่งเน้นที่การใช้ประโยชน์ของ technology เข้ามามีบทบาทในกิจกรรมทางการเงินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ automation tools ยกระดับ platform (ระบบที่ใช้ในการดำเนินงาน) ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้นินจาแวนรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต และรับรองต่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับเรื่องอุบัติเหตุใหม่ เพื่อทำให้ดำเนินธุรกิจอย่างไม่สะดุด
คุณพรนิภากล่าวย้ำว่า เรื่องการเงินเป็นเรื่องสำคัญกับทุกบริษัท โดยส่วนตัวจึงให้ความสำคัญในเรื่อง การรักษาสภาพคล่องของบริษัทซึ่งเป็นฐานสำคัญเพื่อสนับสนุนการดำเนินกลยุทธ์และการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของนินจาแวน และ การบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ปัจจุบันสังคมให้ความสนใจกับเรื่องเพศน้อยลง แต่มองที่คุณค่าและความสามารถของคนนั้นมากกว่า ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเพศใด ก็สามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จได้เหมือนกันและมีความเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะโลกในยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี