ตำรวจชั้นผู้น้อยยิงตัวตายดับอีกราย คราวนี้เป็น ส.ต.อ.สังกัดกองปราบ ใช้ปืน 9 มม. จ่อขมับหนีปัญหาชีวิตดับคาแฟลตที่พักย่านพหลโยธิน เผยเพื่อนตำรวจข้างห้องไปปลุกแต่ไม่ตอบรับ ผิดปกติเลยงัดบานเกล็ดเปิดประตูเข้าไปถึงพบเป็นศพ “บิ๊กแรก” โฆษก ตร.เผย สาเหตุตำรวจปลิดชีพฆ่าตัว 21 นาย ในปี 64 ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาสุขภาพ ปัญหาหนี้สิน เป็นสาเหตุรองลงมา “บิ๊กตู่” ประชุม ครม.นัดแรก ปี 65 กำชับแก้หนี้ดูแลตำรวจ ครม.ให้ความเห็นชอบ ตามที่ ตร. ขออนุมัติงบปี 66 สร้างอาคารที่ทำการพร้อมที่จอดรถ รวมทั้งอาคารที่พักอาศัย วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
ตำรวจชั้นผู้น้อยยิงตัวตายดับอีกราย เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ขณะที่ ด.ต.ธรรมรัตน์ พุกพิบูลย์ และ ส.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ จิตนุกูล ผบ.หมู่ป. สน.พหลโยธิน ปฏิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจากห้องวิทยุ สน.พหลโยธิน มีตำรวจยิงตัวตาย ที่ห้อง 109/178 แฟลต 05 ตึก 4 ชั้น 2 ซอยวิภาวดี 40/1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ภายในห้องพักที่เกิดเหตุพบศพ ส.ต.อ.อภิวัฒน์ ทองไท อายุ 28 ปี สังกัด ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป. นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพไม่สวมเสื้อใส่กางเกงขาสั้นสีดำ มีรอยแผลถูกยิงที่ขมับขวา 1 นัด ที่หน้าแข้งผู้ตายพบปืนกล็อกขนาด 9 มม. วางพาดอยู่ 1 กระบอก ในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือรื้อค้นทรัพย์สิน
จากการสอบปากคำ ส.ต.อ.พัฒนพงษ์ ชูค้ำ ผบ.หมู่ร้อย ปพ.2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. เพื่อนผู้เสียชีวิต ที่เป็นผู้แจ้งเหตุให้การว่า ปกติผู้ตายพักอยู่เพียงคนเดียว ก่อนพบศพเมื่อเวลา 08.10 น. กำลังจะไปทำงาน ได้แวะเคาะประตูห้องผู้ตายเพื่อจะปลุกให้ตื่น แต่ยืนเคาะอยู่นานไม่มีการตอบรับ ตัดสินใจงัดบานเกล็ดเปิดประตูเข้าไปดูพบร่าง ส.ต.อ.อภิวัฒน์นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง โทร.แจ้งไปที่ศูนย์วิทยุ 191 พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนต้องเรียกญาติคนใกล้ชิดผู้ตายมาสอบสวน ถึงสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่นิติเวชและกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
...
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเย็นวันที่ 3 ม.ค. ส.ต.ท.ศิริศักดิ์ ญาติปราโมทย์ อายุ 29 ปี ผบ.หมู่ จร.สน.พญาไท ใช้ปืนยิงตัวเองบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่แฟลต สน.พญาไท ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ขณะที่ พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท กล่าวยืนยันเป็นการฆ่าตัวตาย คาดว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัว ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานแวดล้อม โดยเฉพาะภรรยาที่เป็นผู้ใกล้ชิดขณะเกิดเหตุยังไม่สามารถให้การใดๆได้
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษกตร. กล่าวถึงกรณีตำรวจชั้นประทวน 2 นาย ฆ่าตัวตาย ในพื้นที่ สน.พญาไท และ สน.พหลโยธิน 2 วันติดๆกัน ว่าสถิติสาเหตุการฆ่าตัวตายมาจากปัญหาสุขภาพเป็นอันดับแรก รองลงมาคือปัญหาหนี้สิน รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น เรื่องส่วนตัว ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตำรวจฆ่าตัวตาย สถิติสาเหตุตำรวจฆ่าตัวตายตั้งแต่ปี 51-64 มีตำรวจเสียชีวิต 443 นาย เกิดจากปัญหาสุขภาพ 129 นาย ปัญหาอื่นๆ 121 นาย ปัญหาครอบครัว 98 นาย ปัญหาส่วนตัว 39 นาย ปัญหาหนี้สิน 38 นาย ปัญหาเรื่องงาน 18 นาย ในปี 64 มีการสรุปสาเหตุการฆ่าตัวตายของตำรวจ 21 นาย เกิดจากปัญหาสุขภาพ 11 นาย ปัญหาหนี้สิน 5 นาย ปัญหาส่วนตัว 3 นาย ปัญหาเรื่องงาน 1 นาย ปัญหาอื่นๆ 1 นาย ส่วนปัญหาสุขภาพ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากความเครียดทางจิต หรืออาการป่วยทางร่างกาย
โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นให้ตำรวจทุกนายตรวจสุขภาพประจำปี ทั้งร่างกายและสุขภาพจิต เนื่องจากตำรวจต้องทำงานภายใต้งานที่กดดันและสุ่มเสี่ยง รพ.ตำรวจได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาเฉพาะทาง มีเจ้าหน้าที่สุขภาพจิตให้คำแนะนำตลอด 24 ชม. อีกทั้งการตรวจประจำปี ตร.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำกับข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Depress We Care โทร. 08-1932-0000 ปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ รพ.ตร.อยู่ระหว่างเพิ่มศักยภาพ การให้บริการด้านสุขภาพจิต เน้นการเพิ่มบุคลากร เพื่อให้บริการตำรวจทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง ขณะนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความเครียดมากขึ้น เตรียมให้ความสำคัญกับสุขภาพทางจิตเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตำรวจทุกนายก่อนจะเข้ารับราชการจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตทุกนาย แต่ไม่ยืนยันว่าการเข้ามารับราชการ จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการป่วยขึ้นหรือไม่ เพราะยังระบุไม่ได้ว่าตำรวจมีภาวะเครียด หรืออาการทางจิตมากน้อยเพียงใด สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 พื้นที่ ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชายังไม่สามารถสรุปสาเหตุการฆ่าตัวตายได้ เพราะเหตุเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอน เฟอเรนซ์เต็มรูปแบบ จากบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รอ. เชื่อมสัญญาณไปยังกระทรวงต่างๆ พล.อ.ประยุทธกล่าวในที่ประชุมว่า ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้สินครัวเรือน จะแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนโดยเฉพาะตำรวจ ทั้งนี้ ครม.ให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขออนุมัติงบประมาณปี 2566 เพื่อดำเนินโครงการอาคารที่ทำการพร้อมที่จอดรถ และอาคารที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ปีนี้รัฐบาลต้องการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการชั้นผู้น้อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ต้องไปดูว่าเมื่อเกษียณอายุราชการแล้วเขาไปอยู่ที่ไหน มีเงินเลี้ยงดูอย่างไร เรื่องนี้ต้องมีความคืบหน้าและให้รายงานทุก 3 เดือน ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเสริมว่า หากงบประมาณนี้ไม่ผ่านการพิจารณาของสภาให้มาบอกตน จะให้การเคหะแห่งชาติสร้างแฟลตให้ตำรวจมาเช่า