น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ปีการศึกษา 2565 ตนวางแนวทางขับเคลื่อนการศึกษาหลายประเด็น สิ่งหนึ่งที่มุ่งมั่นดำเนินการให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ การขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยการแก้ปัญหาเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษา การพัฒนาครู และการสร้างโรงเรียนคุณภาพระดับชุมชน
ในส่วนของการแก้ปัญหาเด็กตกหล่นนั้น โครงการ “Chance-พาน้องกลับห้องเรียน” เป้าหมายเพื่อค้นหาติดตาม และนำตัวเด็กตกหล่น หรือต้องออกจากระบบการศึกษากลางคัน รวมถึงเด็กที่เป็นผู้พิการ หรือด้อยโอกาสทางการศึกษา โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้ทั้งหมด บนความเชื่อมั่นว่า ความรู้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเสริมสร้างให้คนมีความสุข ขณะที่การปักหมุดสร้างโรงเรียนคุณภาพระดับชุมชน จะดำเนินการสแกนพื้นที่โรงเรียนขนาดเล็กโดยรอบที่มีเด็กและครูไม่ครบชั้น เพื่อสร้างโรงเรียนเครือข่ายหรือโรงเรียนแม่เหล็กด้วยการเติมการศึกษาที่ครบวงจรไม่ว่าจะเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ห้องเรียนคุณภาพอัจฉริยะ เพื่อให้เด็กเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม จะเริ่มนำร่องโรงเรียนคุณภาพให้เกิดขึ้นอย่างละ 1 ภูมิภาคให้ได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ถือเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ ศธ.ได้พัฒนาครูอย่างครบวงจร เพราะทุกวันนี้โลกแห่งการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเรียนไม่ได้หยุดแค่เพียงห้องเรียนเท่านั้น อีกทั้งเราต้องการสร้างผู้เรียนให้มีสมรรถนะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ดังนั้น ครูจะต้องมีการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเรียนการสอนจะเปลี่ยนไปตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ ครูต้องสามารถบูรณาการทุกกลุ่มวิชาการเรียนรู้เพื่อผลิตผู้เรียนในอนาคตให้รู้จักคิดวิเคราะห์มากขึ้น ทั้งนี้ ไม่กังวลว่านโยบายต่างๆที่ดำเนินการไว้จะไม่ได้สานต่อ หากรัฐบาลมีการยุบสภาและเปลี่ยนรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้ตนจะมุ่งมั่นดำเนินการให้นโยบายที่วางไว้เกิดผลสำเร็จภายในปี 2565.
...