ผมตั้งใจล่วงหน้าไว้แล้วว่า วันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2565 หรือวันปีใหม่ปีนี้ ผมจะปฏิบัติเช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปีที่แล้ว
นั่นก็คือจะใช้วิธีขับรถตระเวนไป “ไหว้พระ” ให้ครบ 9 วัด ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และใกล้เคียง...โดยจะใช้วิธีไหว้และอธิษฐานจากรถของเราเลย ไม่ต้องลงจากรถเดินไปกราบองค์พระประธานด้วยตนเองในพระอุโบสถต่างๆเหมือนปีก่อนๆ
วัดใดที่ไม่อยู่ในเส้นทางจราจรและไม่มีใครขับรถตามมา หรือรถไม่ขวางใครเราก็จะหยุดจอดข้างทาง ไหว้ยาวๆอธิษฐานยาวๆขอพรให้ครบถ้วนทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในรถ
สำหรับวัดที่ไม่อาจหยุดหรือชะลอได้ เราก็จะใช้วิธีไหว้แต่ไกล และพนมมือขอพรไปเรื่อยๆ จนเข้าใกล้และผ่านหน้าวัดไปในที่สุด
จริงๆแล้วเราจะไหว้ “รวบยอด” ให้ครบถ้วนทุกวัด โดยไม่ต้องออกจากบ้านเสียเลยก็ได้ แต่จากการที่เราออกมาไหว้พร้อมๆกันถึงพระอุโบสถต่างๆมาเกือบ 20 ปี ตามประเพณีนิยมไหว้พระ 9 วัดที่เริ่มต้น ขึ้นประมาณนั้น...
ทำให้เรารู้สึกคุ้นชินกับการออกจากบ้านใน “วันปีใหม่” ได้ออกมาพบปะผู้คน ได้มาเห็นการตกแต่งประดับประดาตามวัดวาอารามต่างๆ ในช่วงเทศกาล...ซึ่งมีผลต่อจิตใจมากกว่าการนั่งไหว้อยู่ที่บ้าน
แต่เมื่อสถานการณ์ไม่เอื้อ เพราะปีกลายนี้ คุณ “เดลตา” เดินทางมาถึงพอดี ขณะจะฉลองปีใหม่
เราก็ใช้วิธีพบกันครึ่งทางคือออกจากบ้านไปผ่านหน้าวัด...ยกมือไหว้อธิษฐานบนรถโดยไม่ต้องลง ถือว่าปฏิบัติตนตามกฎ Social Distancing ของกระทรวงสาธารณสุข ทุกประการ
วัดที่ผมตั้งใจไว้สำหรับปีนี้ก็มี วัดเบญจมบพิตร ซึ่งจะเป็นวัดแรกที่รถของครอบครัวผมจะลงจากทางด่วน ที่ยมราช แวะไปชะลอหน้าวัดได้อย่างสะดวก
ถัดไปก็จะเป็น วัดบวรนิเวศวรวิหาร, วัดชนะสงคราม, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, ศาลหลักเมือง (ไหว้ด้วยแต่จะไม่นับว่าเป็นวัด), วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, วัดราชบพิธ, วัดสุทัศนเทพวราราม
...
จากนั้นก็ไปที่ วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ศาลเจ้าพ่อไต้ฮงกง ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง (นับเป็นวัดด้วย เพราะ หลวงพ่อไต้ฮงกง ท่านลาออกจากนายอำเภอมาอุปสมบท จนมรณภาพในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้ ที่เมืองจีน
ท้ายสุดจะวนไปที่ วัดไตรมิตร และ วัดสระเกศ ก่อนไปขึ้นทางด่วนที่ด่านเดิม (ยมราช) กลับบ้าน
ถ้าเป็นปีปกติผมและครอบครัว ซึ่งจอดรถทิ้งไว้ที่บางลำภู ก็จะอาศัยรถเมล์ฟรีไปตามวัดต่างๆ และเมื่อมาถึงวัดโพธิ์แล้ว ก็อาจจะข้ามฟากไป วัดอรุณราชวรวิหาร หรือ วัดกัลยาณมิตร หรือ วัดระฆัง โฆษิตาราม สลับกันไปตามความสะดวกของปีนั้นๆ
สำหรับปีนี้เนื่องจากจะอยู่บนรถตลอดและงดลงเรือข้ามฟากจึง ต้องผัดผ่อนไปก่อน
ดูสถานการณ์แล้วปีใหม่ปีนี้หนักกว่า น่ากลัวกว่าปีที่แล้วครับ เพราะขณะที่ผมนั่งวางแผนเลือกวัดเลือกเส้นทางอยู่นี้ มีข่าวว่าทั่วโลกมีคนติดเชื้อใหม่วันละ 1 ล้าน 6 แสนกว่า กับ 1 ล้าน 8 แสนกว่า เกินล้านแก่ๆถึง 2 วันซ้อน
สหรัฐฯเจอวันแรก 5 แสนกว่า และก็อีกเกือบ 5 แสนในวันที่สอง ในขณะที่ฝรั่งเศสเจอวันละ 2 แสนกว่า 2 วันซ้อนๆ สหราชอาณาจักรก็วันละ 1 แสน 8 หมื่นเศษ 2 วันซ้อนเช่นกัน ฯลฯ
ส่วนใหญ่ก็สายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดเร็ว ระบาดแรง และฝ่าวัคซีนได้ทุกวัคซีนทั้งสิ้น ดีแต่ว่าอัตราผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์ตํ่ากว่า เดลตา เยอะก็พอจะใจชื้นอยู่บ้าง
แต่จะชื้นอย่างไรก็คงต้องปฏิบัติตาม ศบค. อย่างเคร่งครัดละครับ คือต้องเที่ยวปีใหม่อย่างระมัดระวังและ ฯลฯ เพราะบ้านเราก็มีข่าวว่าทะลุ 800 รายไปแล้ว ประเดี๋ยวก็ 1,000 ราย หรือ 10,000 ราย ตามมาแน่ๆหลังปีใหม่ จึงต้องรีบไปรีบกลับ
ไหว้ได้ครบอธิษฐานได้ครบทั้ง 9 วัดตามประสงค์...เสร็จแล้วก็กลับไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านโดยไม่ชักช้า
รอเวลา “ฉลองปีใหม่” หน้าจอทีวีช่อง 7 สี กับ “มาดามแป้ง” คุณ นวลพรรณ ลํ่าซำ ที่จะนำทีมฟุตบอลช้างศึกไทยกลับคืนสู่ตำแหน่ง “เจ้าอาเซียน” ในเวลาทุ่มครึ่งวันเดียวกัน (1 มกราคม)
หวังว่าคงไม่พลาดนะครับ มาดาม...ยิงประตูนำอินโดฯ นัดแรก ซะตั้ง 4-0 พูนสวัสดิ์...ยังจำได้ติดตาตรึงใจอยู่จนถึงวันนี้.
“ซูม”