ในช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีข่าวเล็กๆจากต่างประเทศอยู่ข่าวหนึ่ง ซึ่งสำหรับผมแล้วจะถือว่าเป็นข่าวใหญ่มากและจะเก็บมาเขียนขยายความให้เผยแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางในคอลัมน์นี้ติดต่อกันมาสัก 5–6 ปีแล้วเห็นจะได้
ข่าว “ข้าวหอมมะลิไทย” คว้ารางวัลแชมป์โลก ในการแข่งขันข้าวระดับโลกเพื่อชิงรางวัลที่เรียกว่า “World’s Best Rice Award” ที่จัดขึ้นในการประชุมทางวิชาการและค้าข้าวโลก “World Rice Conference” โดยองค์กรที่เรียกว่า Rice Trader ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา แต่จะโยกย้ายไปจัดประชุมและจัดแข่งขันข้าวในประเทศต่างๆทุกๆปี-นั่นแหละครับ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสัก 6-7 ปี เห็นจะได้ ผมไปเที่ยวกรุงพนมเปญตามคำเชิญของ คุณสุภชัย วีระภุชงค์ หรือ คุณ “อ๊อด ทิฟฟี่” ที่ไปลงทุนดำเนินธุรกิจในกัมพูชาหลายต่อหลายอย่าง รวมทั้ง นำยาแก้หวัดทิฟฟี่จากประเทศไทยไปขาย จนกลายเป็นยาที่ขายดีที่สุดในกัมพูชามาหลายสิปปี
ระหว่างอยู่ที่โน่น ผมไปเจอหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษของเขา ซึ่งผมลืมชื่อไปเสียแล้วจำได้แต่เพียงพาดหัวยักษ์ที่ว่า “ข้าวหอม” ของกัมพูชาคว้าแชมป์โลกในปีดังกล่าว โดยได้ตำแหน่งคู่กับ “ข้าวหอมมะลิไทย” ซึ่งได้คะแนนเท่ากัน
เมื่ออ่านรายละเอียดดูจึงรู้ว่าได้มีการจัดประกวดข้าวยอดเยี่ยมหรือข้าวดีที่สุดในระดับโลกมาหลายปีแล้ว และในการจัดครั้งแรกๆข้าวหอมมะลิไทยเรานี่แหละ เป็นแชมป์โลกถึง 2 ปีซ้อน...แต่จะเป็นเพราะอะไรก็ไม่ทราบผมแทบไม่ได้ยินข่าวคราวมาก่อนเลย
แสดงว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยไม่ให้ความสำคัญกับชัยชนะที่ว่านี้ จึงไม่มีการแถลงข่าวให้คนไทยได้รับรู้
ผมจึงรีบกลับมาเขียนในคอลัมน์ติดต่อกันหลายวัน รวมทั้งแนะนำรัฐบาล ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ด้วยว่าข่าวข้าวหอมมะลิไทยได้แชมป์โลกเป็นข่าวใหญ่มาก ควรจะนำมาประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้รับรู้อย่างกว้างขวาง เพื่อความภาคภูมิใจร่วมกัน
...
ขณะเดียวกันก็จะได้นำไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ชาวโลกได้รับรู้เช่นกันว่า “ข้าวหอมมะลิไทย” คือข้าวที่ดีที่สุดของโลก เพื่อประโยชน์ในการขาย หรือการทำมาร์เกตติ้งต่อไปในอนาคต
ก็น่าชื่นใจครับ เพราะหลังจากเขียนไปแล้วปีต่อๆมา รัฐบาลไทย โดยกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่างก็หยิบมาแถลงข่าวในทุกครั้งที่เราได้แชมป์โลก...โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้ว แถลงใหญ่มาก
มาปีนี้ เมื่อเราคว้าแชมป์โลกมาได้อีกหน จากการประกวดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ปีนี้เขาไปจัดที่ดูไบ...ท่านรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็นำทีมภาคเอกชนออกมาแถลงเป็นข่าวใหญไม่แพ้ปีที่ผ่านมา
ถือเป็นการได้แชมป์โลก 2 ปีซ้อนๆติดต่อกัน...และจากสถิติที่
ผมจดไว้นับจากการประกวดหนแรกปี ค.ศ.2009 มาถึงปีนี้ รวม 13 ครั้งนั้น...ข้าวหอมมะลิไทยเราได้แชมป์ถึง 7 ครั้ง
นั่นก็คือ 2 ครั้งแรก ค.ศ.2009 กับ 2010 จากนั้นก็เว้น 2011-2012-2013 ไปถึง 3 ปี ก่อนจะมาคว้าคืนได้อีกใน 2014 แล้วก็เสียไปอีกในปี 2015 แต่คราวนี้รอแผล็บเดียวปี 2016 เราทวงกลับมาได้แถมได้ซ้อนในปี 2017 เสียอีกด้วยซ้ำ
พอปี 2018 กับ 2019 ชาติอื่นเขามาสอยไปอีกต้องรอจนถึงปีที่แล้วคือ 2020 เราค่อยได้กลับมาใหม่แล้วก็มาเบิ้ลปีนี้ 2021 ตามที่ท่านรองนายกฯจุรินทร์แถลงเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
จัด 13 ครั้ง คว้าแชมป์มา 7 ครั้ง ก็ถือว่าจะเกินครึ่งแล้ว จะไม่ให้ภูมิใจได้อย่างไรล่ะครับ
ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวนาและเกษตรกรผู้ปลูกข้าว “หอมมะลิ” ทุกๆท่าน และขอขอบคุณที่ท่านช่วยกันดำรงรักษาสืบสาน และพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนเราสามารถกลับมาคว้าแชมป์โลกได้อีก 2 ปีซ้อนๆติดกันดังกล่าว
ผมยังไม่เบื่อในชัยชนะนะครับ และมั่นใจว่าคนไทยทั้งประเทศก็ยังไม่เบื่อเช่นกัน ฉะนั้นปีหน้าโปรดคว้าแชมป์อีกหน เพื่อให้ได้ ชื่อว่าเป็นแชมป์ 3 ปีซ้อน...ให้โลกรำลือไปอีกนานแสนนานว่างั้นเถอะ.
“ซูม”