ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยหลังประชุมหารือระหว่างผู้บริหาร อว. กับ อธิการบดี 4 ทปอ. เพื่อทำความเข้าใจและให้เกิดการขับเคลื่อนผลงานของ อว.ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ว่า อว. เป็นยักษ์ที่ขยับตื่นแล้ว เรื่องสำคัญที่อยากให้ทุกมหาวิทยาลัยมาช่วยกันคิดช่วยกันทำหลังจากที่ อว. ได้จัดตั้งวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือธัชชา คือการช่วยกันสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากมรดกทางวัฒนธรรมของไทย ต่อยอดจากของดีที่เรามีอยู่ และเร็วๆนี้ตนยังมีนโยบายที่จะจัดตั้ง “วิทยสถานวิทยาศาสตร์” ให้เป็นแหล่งรวมคนที่โดดเด่น รอบด้านที่สุดในทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างทีมที่มีความคล่องตัวที่สุดในการทำงาน ทำวิจัยและพัฒนาในเรื่องวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยไทยในระดับโลกได้อีกทางหนึ่งด้วย
รมว.อว.กล่าวต่อว่า ตนได้ประชุมรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่างอาเซียนและจีน โดยมีรัฐมนตรีจากประเทศอาเซียนทั้งบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม รวมทั้งเลขาธิการประชาคมอาเซียนเข้าร่วม เพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกับแผนปฏิบัติการร่วมอาเซียน-จีนเพื่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่ออนาคต พ.ศ. 2564-2568 และมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) สร้างเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ พร้อมนำ วทน. มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“รัฐมนตรีจากแต่ละประเทศเห็นพ้องต้องกันว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีบทบาทสำคัญมากในการควบคุมและแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 และในอนาคตนี้จะเป็นกลไกที่สำคัญมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมหลังยุคโควิด และช่วยเตรียมความพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดในครั้งต่อไปด้วย นอกจากนี้ยังมีแผนสนับสนุน ทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนนักวิจัย 300 คนภายใน 5 ปี ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นด้านการแพทย์และสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีสีเขียว การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการขจัดความยากจนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม” รมว.อว.กล่าว.
...