ถ้าย้อนกลับในอดีต เมื่อเกือบประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจเคยรู้สึกเหมือนว่า จะดีแค่ไหนถ้าหากเราเลี้ยวรถเข้าไปในสถานีบริการน้ำมันแล้วสามารถทำอะไรได้มากกว่าแค่เติมน้ำมัน กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาความต้องการร่วมแบบนั้นก็ค่อยๆ เกิดขึ้นจริง การเลี้ยวเข้าไปในสถานีบริการน้ำมันหนึ่งครั้งเป็นมากกว่าแค่การเข้าไปเติมน้ำมัน แต่ได้เติมเต็มความสุขในแทบทุกเรื่องไปพร้อมกัน และผู้ที่ทำให้สิ่งนี้เกิดเป็นจริงได้จนน่าชื่นชมอย่างมาก ก็คือ “พีทีที สเตชั่น” ที่สานต่อแนวคิดการบริการและทำให้สถานีบริการน้ำมันกลายเป็น “Living Community” ที่หลอมรวมทุกความสุขของทั้งผู้ที่คอยต้อนรับและผู้มาเยือนได้อย่างลงตัว ไม่ผิดเลยหากจะบอกว่าวันนี้ พีทีที สเตชั่น ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการ “เป็นตรงกลาง” เติมเต็มความสุข สร้างรอยยิ้มให้ผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ทั้งในวันธรรมดาๆ จนถึงวันที่เราต้องฝ่าวิกฤติร่วมกัน

พื้นที่เติมเต็มความสุข

วันนี้การเลี้ยวรถเข้าไปใน พีทีที สเตชั่น หนึ่งครั้ง เราจึงสามารถทำอะไรได้มากกว่าหนึ่งอย่าง และเชื่อว่าสำหรับหลายคนแล้ว เป้าหมายหลักก็อาจจะไม่ใช่แค่การเข้าไปเพื่อเติมน้ำมันอีกต่อไปแล้ว แต่เข้าไปเติมเต็มความสุขให้กับตัวเองในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่เติมเต็มความอิ่มกับอาหารอร่อยๆ เติมเต็มความสดชื่นกับกาแฟแก้วโปรด หรือแม้แต่ปลด (ปล่อย) ทุกข์คืนความสุขที่ห้องน้ำสะอาดๆ พีทีที สเตชั่น กลายเป็นที่พึ่งที่เราจะนึกถึงเสมอ ในขณะเดียวกัน “ผู้คอยต้อนรับ” ก็วางตัวเสมือนที่พึ่งในทุกสถานการณ์ได้เช่นกัน เพราะไม่เพียงเป็นพื้นที่บริการความสุข แต่ที่ พีทีที สเตชั่น ยังพร้อมสำหรับบริการความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่จุดช่วยเหลือนักเดินทางในกรณีฉุกเฉิน ทั้งรถและคน โดยล่าสุดยังได้ร่วมมือกับ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี และสถาบันประสาทวิทยา ให้บริการจุดจอดรถ Mobile Stroke Unit หน่วยโรคหลอดเลือดสมองเคลื่อนที่ ใน สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น อีกด้วย

ในหลายสถานการณ์ฉุกเฉิน พีทีที สเตชั่น ยังเป็น “เพื่อน” เป็น “คนที่อยู่เคียงข้าง” "เป็นตรงกลาง" ได้อย่างน่าชื่นชม ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในระลอกที่ผ่านมา พีทีที สเตชั่น พระราม 2 (ขาออก) เป็นตัวอย่างหนึ่งของการ “เป็นตรงกลาง” เพื่อจับมือคนไทยฝ่าวิกฤติไปด้วยกันได้อย่างดี ที่นี่ได้เป็นพื้นที่สำหรับหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล จากโครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย” ซึ่งรองรับผู้ที่มารับวัคซีนได้ถึงวันละ 1,500 คน ในขณะเดียวกันภายใต้วิกฤติต่างๆ ที่ประชาชนในพื้นที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พีทีที สเตชั่น ก็เสมือน “เพื่อน” ที่หยิบยื่นความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อย่างการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ประสบอุทกภัย น้ำใจเพียงน้อยนิดจึงมีความหมายยิ่งใหญ่ หากเรามองเห็นกัน นี่อาจเป็นนิยามหนึ่งของความสุขที่ พีทีที สเตชั่น ส่งมอบให้กับผู้คน

พื้นที่สร้างรอยยิ้มให้ผู้คนและชุมชน

ความสุขในอีกรูปแบบหนึ่งที่ พีทีที สเตชั่น สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้สถานีบริการ และทำให้เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมันแล้วในวันนี้คือ การสร้างสรรค์พื้นที่สร้างรอยยิ้มให้ผู้คนและชุมชนไปพร้อมกัน โดยเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทำให้ชุมชนเติบโตและมีความสุขไปด้วยกัน ผ่านการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ประสบปัญหาในการหาช่องทางจำหน่ายผลิตผล ด้วยการเปิดพื้นที่ปันสุขสนับสนุนและจัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรมาจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตร โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ถือเป็นเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในชุมชนรอบๆ พีทีที สเตชั่น ได้นำสินค้าของดีในชุมชนเข้ามาจำหน่ายในตลาดวิถีชุมชน ขณะเดียวก็มีสินค้าจากโครงการช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนที่ พีทีที สเตชั่น ตั้งใจนำมามอบให้ลูกค้าทุกคนที่เลี้ยวรถเข้ามาเติมน้ำมันให้ได้ความสุขกลับไปในอีกรูปแบบหนึ่ง 

การได้เป็นส่วนหนึ่งในแทบทุกพื้นที่ในทุกชุมชนในประเทศไทย ทำให้ พีทีที สเตชั่น มองเห็นความหมายที่แท้จริงของการเติบโตร่วมกัน ซึ่งการได้รู้จักและซึมซับความเป็นชุมชนที่แท้จริง ในทุกชุมชนที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างกัน ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการส่งมอบโอกาส และเป็นความหมายหนึ่งของการสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ “ตรงกลาง” นี้เช่นกัน

พื้นที่คืนความยั่งยืนให้สิ่งแวดล้อม

พีทีที สเตชั่น ยังเป็นส่วนหนึ่งของการคืนความสุขและรอยยิ้ม กลับไปสู่สิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน หลายโครงการที่ริเริ่มขึ้นที่นี่เป็นตัวอย่างของสิ่งที่น่าชื่นชมที่การเติบโตทางธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของมนุษย์ แต่หมายถึงสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลสะท้อนกลับมาถึงมนุษย์ด้วยเช่นกัน อย่างโครงการที่ชื่อคุ้นหูอย่างโครงการ “แยก แลก ยิ้ม” ก็ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของโครงการที่ช่วยส่งเสริมการจัดการขยะอย่างถูกต้องได้อย่างน่าสนใจ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นกุศโลบายที่แยบยลในการช่วยปลูกจิตสำนึกการจัดการขยะให้กับผู้คนได้อีกด้วย โดยที่ผ่านมาได้จัดการขยะ และนำเงินที่ได้จากการขายไปสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนโดยรอบ โดยมีชุมชนที่ช่วยเหลือไปแล้วมากกว่า 3,000 โครงการเลยทีเดียว

การคืนความสุขให้แก่สิ่งแวดล้อมยังถูกขยายผลไปสู่โครงการ “พลาสติก (คืน) สุข จนถึงโครงการ “แยกขวดช่วยหมอ” ซึ่งเกิดจากการคัดแยกขยะพลาสติก โดยเฉพาะขวด PET เพื่ออัพไซเคิลเป็นชุด PPE เป็นการหมุนเวียนพลาสติกใช้แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดในรูปแบบหนึ่ง สำหรับสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ทั้งนี้ พีทีที สเตชั่น ได้จัดพื้นที่สำหรับทิ้งขยะอย่างมีความหมายขึ้นภายในสถานีบริการ นั่นจึงเท่ากับว่า ทุกครั้งที่ใครสักคนเลี้ยวรถเข้ามาเพื่อทิ้งขยะอย่างถูกต้องสักชิ้น เขาก็ได้ทำเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ พีทีที สเตชั่น แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

คำว่า “เป็นตรงกลาง” สำหรับ พีทีที สเตชั่น แล้ว วันนี้จึงมากกว่าแค่คำธรรมดาๆ คำหนึ่ง เพราะความหมายและคุณค่าที่แท้จริงเกิดขึ้นแล้วกับทั้งผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม สมค่ากับการ “เป็นตรงกลาง” ที่พร้อมเติมเต็มความสุขให้ได้เสมอเช่นกัน