ที่วัดห้วยด้วน อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ร่วมเป็นสักขีพยานถวายเงินคืนแด่ พระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ ปุญญกาโม) หรือหลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน 63 ล้านบาท
หลวงพ่อพัฒน์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ปฏิบัติดี มีความเมตตาสูง ทําให้เลื่อมใสศรัทธา ด้วยเหตุนี้ทําให้มีผู้ขอให้หลวงพ่อพัฒน์ ปลุกเสกวัตถุมงคล และถวายเงินแด่หลวงพ่อพัฒน์ปีละกว่าร้อยล้านบาท
ซึ่งเงินเหล่านี้หลวงพ่อจะนำเงินไปใช้ในการทะนุบำรุงศาสนา และให้หน่วยงานที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ เพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น วัด โรงพยาบาล และโรงเรียนต่างๆ
ไม่ได้นำเงินไปใช้ในทางส่วนตัว
ก่อนหน้ากลุ่มลูกศิษย์ของหลวงพ่อพัฒน์เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ช่วยตรวจสอบ กลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน และ คนใกล้ชิด ที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัด หลังพบมีพฤติการณ์ต้องสงสัยทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วน และมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจนิมนต์ และการดูแลสุขภาพของหลวงพ่อพัฒน์ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี
มีการยักย้ายถ่ายเทเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัว เป็นข้อพิพาทพฤติกรรมบริหารเงินวัดที่ไม่โปร่งใส ขอให้เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ พล.ต.ท.จิรภพ สั่งให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน
บก.ปปป. อายัดเงินในบัญชีไว้ ก่อนเข้าตรวจสอบภายในวัด และตรวจยึดเอกสารและหลักฐานต่างๆนำมาตรวจสอบ เชิญตัวไวยาวัจกรทั้ง 3 คนที่มีชื่อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำ
ถึงที่ไปที่มาของเงิน
ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า กลุ่มไวยาวัจกรคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ นายเสนาะ ทองปรอน นางชัญญา เพชรสายบัว และ นางบุญเชิด สุขจิตร นำเงินวัดเข้าบัญชีในชื่อตนเอง 7 บัญชี เป็นเงิน 63 ล้านบาท
...
เบื้องต้น 3 ไวยาวัจกรรับว่าเป็นเงินของหลวงพ่อพัฒน์ สอดคล้องคำให้การหลวงพ่อพัฒน์
คดีนี้ บก.ปปป. เข้าตรวจสอบพยานหลักฐานจนทราบข้อเท็จจริง สุดท้ายไวยาวัจกรทั้ง 3 ราย ยินยอมทำหนังสือบันทึกสมัครใจถอนเงินมาถวายคืนแด่หลวงพ่อพัฒน์และวัด นอกเหนือจากเงิน 63 ล้านบาท ทำการ อายัดบัญชีธนาคารของนายเสนาะ 7.9 ล้านบาท ตรวจสอบว่าเป็นเงินของวัดอีกหรือไม่
เป็นเรื่องเคลือบแคลง-สงสัยของผู้คนในสังคมเกี่ยวกับทุจริตในวงการพระพุทธศาสนา ก่อนบานปลาย พล.ต.ท.จิรภพ ใช้ศักยภาพของทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยตรวจสอบ ทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม
ดำเนินคดีกันไปตามพยานหลักฐาน.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th