จับตาการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 26 พ.ย.นี้ ลุ้นผ่อนคลายบางมาตร การ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสถานบันเทิง ผับ บาร์ หลังภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายจังหวัดแนวโน้มดีขึ้น แม้ยอดคนติดเชื้อใหม่ยังทะลุ 6.4 พันคน ตายอีก 49 ศพ แต่ศูนย์จีโนม รพ.รามาฯ ยันไทยเลยจุดวิกฤติแล้ว กำลังสู่ขาลง และข่าวดีไม่พบสายพันธุ์ B.1.640 ที่ระบาดหนักในยุโรป ขณะที่ “อนุทิน” ยังห่วง ขอค่อยๆปรับสี ดูเป็นโซน พ่วงอัตราการฉีดวัคซีน ลั่นฉลองปีใหม่การได้อยู่กับครอบครัวกินน้ำแข็งเปล่าก็อร่อย ด้าน กทม.เผยผลตรวจร้านอาหารขายเหล้าได้ผ่านเกณฑ์แล้ว 975 แห่งจากกว่า 1.4 พันแห่ง
สถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย ยังทรงตัวเมื่อผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง และมีหลายจังหวัดผู้ติดเชื้อเพิ่มต่ำกว่าร้อยไปจนถึงเหลือแค่เลขตัวเดียว ทำให้ ศบค.อาจผ่อนคลายบางมาตรการเพิ่มเติม
ไทยติดเชื้อลด-ตายพุ่ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 พ.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,428 คน ติดเชื้อในประเทศ 5,868 คน จากเรือนจำ 553 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,882 คน อยู่ระหว่างรักษา 85,768 คน อาการหนัก 1,595 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 382 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 49 คน เป็นชาย 29 คนและหญิง 20 คน ผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 35 คน มีโรคเรื้อรัง 11 คน เด็กอายุ 14 ปี ที่ จ.ปัตตานี 1 คน เป็นผู้ไม่เคยได้รับวัคซีน 23 คน เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 6 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,071,009 คน มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,964,805 คน ยอดเสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 20,436 คน
...
เร่งฉีดวัคซีนจังหวัดยอดต่ำ
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 พ.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 185,639 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ทั้งสิ้น 88,989,235 โดส เป็นที่น่าสังเกตว่ามีถึง 10 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่งครอบคลุมประชากรไม่ถึงร้อยละ 50 ได้แก่ นครพนม หนองบัวลำภู สกลนคร บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร แม่ฮ่องสอน สุรินทร์ ร้อยเอ็ด สมุทรสาคร ส่วนจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่งในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรังน้อยที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน นครนายก ราชบุรี สุพรรณบุรี ปัตตานี ขอนแก่น กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง จึงขอให้จังหวัดเหล่านี้เร่งระดมฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้น
ห่วงเชียงใหม่ยอดพุ่ง
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 815 คน สงขลา 457 คน นครศรีธรรมราช 438 คน ราชบุรี 289 คน สุราษฎร์ธานี 280 คน เชียงใหม่ 240 คน ปัตตานี 194 คน สมุทรปราการ 164 คน ชลบุรี 150 คน ยะลา 146 คน ทั้งนี้ ต้องจับตาจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกินร้อยและมีทิศทางสูงขึ้นคือ เชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไม่ถึงร้อย แต่มีทิศทางการติดเชื้อสูงขึ้น ได้แก่ เชียงราย ลำพูน พิษณุโลกและสิงห์บุรี ขณะที่คลัสเตอร์ที่ต้องจับตาคือ งานบุญ ที่ยังมีพบอยู่ใน จ.ร้อยเอ็ด เป็นงานทอดกฐิน คลัสเตอร์งานศพ ที่ จ.กาญจนบุรี อุดรธานี คลัสเตอร์แคมป์คนงานพบที่ จ.สระแก้ว ขอนแก่น ลำพูน เชียงใหม่ คลัสเตอร์โรงเรียนพบที่ จ.อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี ขณะที่ กทม.ยังพบคลัสเตอร์โรงงาน ตลาด สถานประกอบการ
กทม.เช็กความพร้อมผับบาร์
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ช่วงสัปดาห์นี้ กทม.จะตรวจสอบและกำกับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่มีการลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้น 1,443 แห่ง สำรวจไปแล้ว 975 แห่ง จึงขอให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนไว้กับ กทม.ให้รีบลงทะเบียนและให้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลการปฏิบัติตัวในเว็บไซต์ Thai Stop COVID+ เพื่อศึกษาวิธีการและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อให้ได้รับมาตรฐาน ถ้าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงสถานที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเข้าไปดูแลทำให้เหมาะสมเพื่อให้ได้มาตรฐาน SHA+ต่อไป และสิ่งที่ดำเนินการได้ง่ายที่สุดในตอนนี้คือ สำรวจบุคลากร หากพบยังไม่ฉีดวัคซีนก็ให้เร่งดำเนินการ กรณีรับบุคลากรใหม่ให้สอบถามเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อให้ได้รับวัคซีนสองเข็มอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ในวันศุกร์ที่ 26 พ.ย. จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ให้จับตาว่าจะมีมาตรการใดที่เกิดขึ้นบ้าง
นทท.การ์ดตก-ที่พักเอาเปรียบ
นอกจากนี้ พญ.อภิสมัยยังกล่าวว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค. ซึ่งมีจังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเข้าร่วมประชุม มีการรายงานข้อขัดข้องในการเปิดประเทศที่ผ่านมา อันดับแรกพบว่านักท่องเที่ยวบางรายไม่ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขของไทย ส่วนใหญ่คือปฏิเสธสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย รวมกลุ่มสังสรรค์รับประทานอาหารร่วมกัน นำไปสู่การติดเชื้อ มีการตักเตือนในเบื้องต้น ขอย้ำว่าภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อของไทย การไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ การรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นความผิดมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท ขณะเดียวกันพบโรงแรมเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เข้าเกณฑ์หลอกลวง แต่มีส่วนน้อย ขอความร่วมมือผู้ประกอบการดำเนิน การอย่างถูกต้อง บางโรงแรมมีเจตนาทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นต่อการกำกับมาตรการของไทยและมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ดังนั้น ขอความร่วมมือภาคเอกชน โรงแรม ต้องทำไปในทิศทางเดียวกัน
ร้านเหล้าผ่านเกณฑ์ 975 แห่ง
ส่วนที่ศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ศูนย์บัญชาการปฏิบัติการควบคุมการเปิดเมืองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2564 ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองคือการรายงานผลการตรวจสถานประกอบการร้านอาหารที่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสำนักอนามัย กทม. มีจำนวน 1,443 แห่ง ตรวจสอบความพร้อม แล้วจำนวน 975 แห่ง มี SHA จำนวน 277 แห่งไม่มี SHA จำนวน 698 แห่ง ดำเนินการประเมินผ่าน Thai Stop Covid 2 Plus จำนวน 225 แห่ง ยังไม่ได้ดำเนินการ 750 แห่ง ที่ประชุมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสำรวจอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อเตรียมเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 26 พ.ย.นี้
...
เข้าไทย 3 หมื่นพบเชื้อ 39 คน
ขณะที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีจำนวนผู้เดินทางเข้ามา รวม 57,703 คน เป็นชาวไทย 10,686 คน และชาวต่างชาติจำนวน 30,274 คน ผลพบเชื้อ 39 คน ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีจำนวนผู้เดินทางเข้าจำนวน 598 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ
ยังไม่พบ B.1.640 ในไทย
ต่อมา ศ.ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลสายพันธุ์ใหม่ B.1.640 ที่พบในฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ สกอตแลนด์ อิตาลี ถือว่าน้อยมาก ทั้งองค์การอนามัยโลกรวมถึงหน่วยงานควบคุมโรคแต่ละประเทศไม่จัดว่าเป็นการระบาดของสายพันธุ์นี้ เพียงแต่เฝ้าระวัง ทั้งนี้ ต้นกำเนิดสายพันธุ์ B.1.640 มาจากแอฟริกา จึงต่างจากสายพันธุ์ในยุโรป ในแอฟริกามีการระบาดเป็นหย่อมๆ เพียงแต่เราไม่รู้ เพราะไม่มีการนำตัวอย่างมาถอดรหัสพันธุรกรรม ดังนั้น หากมีคนจากแอฟริกาเดินทางมา สามารถนำสายพันธุ์นั้นๆเข้ามาทำให้เป็นสายพันธุ์ใหม่ ส่วนไทยยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าว
ไทยขาลงผ่านจุดวิกฤติแล้ว
ศ.ดร.วสันต์กล่าวด้วยว่า จังหวัดที่เคยเป็นพื้นที่สีแดงมาก่อน เช่น กทม. นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี รวมไปถึงภาคใต้ สงขลา ยะลา เริ่มหาตัวอย่างผู้ติดเชื้อได้ยาก ที่ศูนย์จีโนมฯ มีความร่วมมือกับ 2 รพ. ที่สมุทรสาคร และปทุมธานี ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการเก็บตัวอย่างเชื้อมาตรวจโดยสุ่มกลุ่มตัวอย่าง รพ.ละ 200 ตัวอย่าง ทั้ง 2 พื้นที่ยังไม่พบผลบวกเลย ไม่ได้หมายความว่าประชากรในพื้นที่นั้นไม่มีการติดเชื้อ แต่ถือว่ามีการติดเชื้อน้อยมากเนื่องจากการระบาดเลยจุดสูงสุดแล้วและลดลงมา จนสู่ภาวะเรียกว่าเป็นโรคประจำถิ่น ใน กทม.ก็เป็นลักษณะเช่นนี้ถือว่าอยู่ในช่วงขาลง
...
ยันผ่านวิกฤติทีละจังหวัด
ส่วนกรณี จ.เชียงใหม่หรือบางพื้นที่อาจพบการติดเชื้อเพิ่มอยู่นั้น ศ.ดร.วสันต์ อธิบายว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เหลื่อมกัน ไม่ได้ติดพร้อมกันทุกจังหวัด ทั้งประเทศ ดังนั้น เชียงใหม่ตอนนี้จะเหมือน กทม.เมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลายคนอาจใจร้อนมองว่าทำไมประเทศไทยไม่ผ่านวิกฤติสักที ความจริงผ่านไปแล้ว เพียงแต่จังหวัดไหนผ่านก่อนหลังเท่านั้น ไม่ได้ติดทั้งประเทศ เป็นการทยอยติด ส่งผลดีต่อการควบคุม ทำให้กำลังบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ สามารถเคลื่อนตัวไปแก้ปัญหา จังหวัดที่ระบาดได้ หากทุกจังหวัดทั้งประเทศระบาดพร้อมกันจะยุ่ง
เดลตาย่อยครองไทย
ศ.ดร.วสันต์กล่าวอีกว่า สำหรับสายพันธุ์ที่ครองพื้นที่ในไทยขณะนี้เป็นสายพันธุ์ย่อยของเดลตาคือเป็นการกลายพันธุ์เล็กๆ น้อยๆ จากสายพันธุ์หลัก มีรายละเอียดเล็กน้อยที่แตกต่างทางพันธุกรรมเท่านั้น ตำแหน่งการกลายพันธุ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนามแหลม จึงไม่มีผลกับวัคซีน ทำให้เบาใจ ไม่น่ากังวล ยังเหมือนกับสายหลัก จึงไม่ได้มีการตั้งชื่อเรียกใหม่ ในประเทศไทยขณะนี้มีเดลตาครองพื้นที่ประมาณกว่าร้อยละ 90 อัลฟาร้อยละ 3 เป็นเดลตาสายพันธุ์ย่อยที่เรียกว่า AY จุดต่างๆ 2-3 สายพันธุ์จากทั้งหมด ที่มีประมาณ 50 สายพันธุ์ย่อย เช่น AY.30 ประมาณร้อยละ 40 AY.39 ประมาณร้อยละ 8 ขณะนี้ทั่วโลกเริ่มเข้าสู่โหมดมองไปข้างหน้าที่เห็นว่าจะเป็นโรคประจำถิ่น อย่างสหรัฐอเมริการะบุหากประชาชนให้ความร่วมมือฉีดวัคซีน ปีหน้ารับรองจะเบาบางลงมาก ของไทยค่อนข้างมั่นใจดูจากกราฟข้อมูลต่างๆ ก็อยู่ในช่วงลง เนื่องจากเกิดภูมิคุ้มกันทั้งจากธรรมชาติและจากวัคซีน ทำให้การติดเชื้อน้อยลง
...
“อนุทิน” แจงการเข้าโคแวกซ์
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในการเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ภาคเหนือ ที่โรงแรมท็อปแลนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.พิษณุโลก ว่ายืนยันเรามีวัคซีนมากเพียงพอที่สำรอง เอาไว้สำหรับเข็ม 3 และสำหรับคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย และยังมีมิตรประเทศมากมายที่แสดงเจตจำนงจะบริจาควัคซีนให้ไทย ทั้งฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และอีกหลายประเทศ ขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะพิจารณาบริจาควัคซีนให้กับประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีนอย่างเต็มที่ หรือประเทศที่ยังมีผลกระทบล่าช้าของวัคซีนที่สั่งซื้อจากโคแวกซ์ (COVAX) ไทยจะเร่งพิจารณา ส่วนประเด็นที่บอกว่าไทยไม่ได้เข้าโคแวกซ์คงไม่ถูกนัก เพราะว่าเราเข้าโคแวกซ์ในฐานะที่เป็นผู้ให้
กินน้ำแข็งเปล่าก็อร่อย
นอกจากนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงการที่ผู้ประกอบการร้องขอเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะให้เร็วขึ้นว่า เราขอค่อยๆปรับสีไปทีละนิด ดูสถานการณ์เป็นโซน เป็นเวลา เป็นจังหวัด เพราะยังคงมีความน่ากลัวอยู่ในเรื่องของการติดเชื้อ เรื่องของการปรับสีพื้นที่นั้น เน้นจากปริมาณและอัตราส่วนของการได้รับวัคซีนของประชาชนในแต่ละจังหวัด ยังคงยืนยันว่าที่อันตรายที่สุดในการติดเชื้อก็คือการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เพราะว่าจะมีในเรื่องของการใกล้ชิดกัน การรวมกลุ่ม ร่วมกันใช้ภาชนะอาหาร น้ำแข็งต่างๆ ยืนยันว่ากรมควบคุมโรคจะพยายามหามาตรการ ถ้าเราฉีดวัคซีนกันทั่วถึง และใช้มาตรการ COVID-FREE SITTING มาตรการ D-M-H-T ควบคู่กันไปเราจะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการได้อย่างเร็วที่สุด เราฉลองปีใหม่ดีกว่าไม่ได้ฉลอง การที่เราได้กลับบ้าน ได้พบครอบครัว ญาติพี่น้อง เวลาอยู่ด้วยกันกินน้ำแข็งเปล่าก็อร่อยแล้ว
ตายจากวัคซีนไม่ถึง 5 คน
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการบรรยายพิเศษ ผลการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ตามเป้าหมาย ภายในงานเดียวกันว่า ขณะนี้เราฉีดวัคซีนไปทั้งหมด 88.9 ล้านโดส และกำลังใส่ข้อมูลเพิ่มเติมอีกล้านกว่าคน รวมฉีดวัคซีนแล้วกว่า 90 ล้านโดส ตามที่นายกรัฐมนตรีต้องการเร่งให้ฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส คาดว่าไม่เกินวันที่ 5 ธ.ค.นี้ การเปิดประเทศอย่างปลอดภัย ไม่ควรมีผู้เสียชีวิต หรือเจ็บป่วยรุนแรงจนเกินขีดความสามารถของกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนไม่ถึง 5 คน ส่วนการเสียชีวิตอื่นๆ ไม่พบว่าเกี่ยวกับวัคซีน แต่เป็นสาเหตุที่เกิดร่วมกัน และย้ำอีกครั้งว่าอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนไม่เท่ากับผลข้างเคียงหรือแพ้วัคซีน ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน กระทรวงฯจะเร่งปูพรมลงไปค้นหา ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไปเคาะประตูบ้าน รวมถึงคนที่ฉีดวัคซีนไปนานแล้ว ต้องเข้ามารับบูสเตอร์ เพราะการระบาดเกิดจากภูมิที่ลดลงด้วยส่วนหนึ่ง ทางรัฐบาลได้เตรียมวัคซีนไว้ 120 ล้านโดส เข็ม 3 มีพอแน่นอน และเผื่อไปเข็ม 4 นอกจากนี้ยังมีวัคซีนโมเดอร์นาอีก 1 ล้านโดสที่เข้ามาช่วงบ่ายวันที่ 22 พ.ย.นี้ จะมีการจัดสรรวัคซีนต่อไป
ป่วยเป็นกลุ่มก้อนยังเยอะ
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วประเทศ จากข้อมูลของ ศบค.ระบุเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ยังเจอผู้ติดเชื้อทุกจังหวัด แต่บางจังหวัดแนวโน้ม ดีมีผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่า 5 คน อาทิ ระนอง 4 คน สกลนคร 3 คน นครพนม 2 คน อำนาจเจริญ พะเยาและแพร่ จังหวัดละ 1 คน อุตรดิตถ์ 2 คน ชัยนาท 4 คน ฯลฯ แต่ยังมีบางจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์โดยที่ชุมชนชาวเลมอแกน บนหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่ที่ 4 ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรวม 22 คน และมีประกาศปิดหมู่บ้าน 14 วัน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถูกกักตัว 310 คน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน นายทยากร บุษยาวรรณ ผู้รับใบอนุญาตและผู้จัดการโรงเรียนอนุบาลธารทิพย์ อ.แม่สะเรียง เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น จึงปิดเรียนต่อเนื่องระหว่างวันที่ 22-26 พ.ย.นี้ พร้อมทำบิ๊กคลีนนิ่ง ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อโรคอื่นๆเป็นที่เรียบร้อย
คลัสเตอร์โรงเรียนไม่นิ่ง
ขณะที่ จ.อุบลราชธานี พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 115 คน และเป็นคลัสเตอร์ในสถานศึกษา อาทิ โรงเรียนสมบูรณ์เลิศวิทยา ต.สีวิเชียร อ.น้ำยืน เพิ่ม 23 คน รวม 180 คน โรงเรียนอนุบาลน้ำยืน อ.น้ำยืน เพิ่ม 25 คน รวม 71 คน โรงเรียนบ้านซำสะกวยน้อย ต.ตาเกา อ.น้ำขุ่น เพิ่ม 5 คน รวม 21 คน โรงเรียนวัดศรีอุบลรัตนาราม อ.เมืองอุบลฯ เพิ่ม 2 คน รวม 52 คน ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมารายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 79 คน เสียชีวิต 1 ศพ เป็นชาย อายุ 52 ปี ชาว ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว ขณะที่ยังมี 5 คลัสเตอร์ ทั้งเดิม และใหม่ต้องเฝ้าระวัง อาทิ คลัสเตอร์ใหม่ โรงงานราชสีมาจอหอ อ.เมืองนครราชสีมา เกิดที่แรกและวงที่สอง พบผู้ติดเชื้อรวม 28 คน กระจายใน 3 อำเภอคือ อ.เมือง 11 คน อ.โนนไทย 16 คน และ อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 คน คลัสเตอร์งานบุญฉลองอัฐิ บ้านหินแห่ หมู่ 8 ต.สีดา อ.สีดา ติดเชื้อในครอบครัวรวม 20 คน คลัสเตอร์เดิม บ้านตาฮง หมู่ 8 ต.ห้วยแคน อ.ห้วยแถลง ขยายวงสองและวง 3 รวมสะสม 27 คน คลัสเตอร์รับจ้างถอนผักชี หมู่ 2 บ้านหนองแวง ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว พบเพิ่ม 15 คน รวมผู้ติดเชื้อ 111 คน
ติดเชื้อในศูนย์ฝึกฯกว่า 180 คน
ส่วนที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตั้งศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิดสีเขียว Cl หลังพบนักเรียนตำรวจที่เข้ารับการฝึกอบรมติดเชื้อโควิด-19 กว่า 180 นาย และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อมาจากที่ไหน เนื่องจากนักเรียนตำรวจที่เข้ารับการฝึกอบรม ไม่ได้ออกไปไหนกว่า 5 เดือน โดยในศูนย์ฝึกฯมีทั้งนักเรียนตำรวจที่เข้าฝึกอบรมและครูอาจารย์ผู้ฝึก รวมผู้ดูแลศูนย์ฝึกกว่า 500 คน มีนักเรียนตำรวจติดเชื้อแล้ว 179 นาย แม่ครัวของศูนย์ฝึกติดเชื้อ รวม 3 คน ขณะเดียวกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา รพ.ปากท่อ นำรถโมบายเอกซเรย์ไปเอกซเรย์ปอดทุกคนในศูนย์ฝึกฯ พบเบื้องต้นมีนักเรียนตำรวจเชื้อลงปอด 7 นาย ต้องส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.ปากท่อ