นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บน้ำผึ้งแล้ว โดยผึ้งจะออกเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ป่าและดอกสาบเสือที่เริ่มผลิดอกบานในช่วง พ.ย.-ธ.ค. ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงฤดูกาลไม้ผลบางชนิดเริ่มออกดอก เพื่อให้ได้น้ำผึ้งในปริมาณมากและมีคุณภาพดี กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะนำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งเตรียมความพร้อมของผึ้งและอุปกรณ์ต่างๆ

“นางพญาและประชากรผึ้งภายในรังต้องมีความแข็งแรงสมบูรณ์และอยู่ในวัยที่พร้อมออกหาน้ำหวาน จำนวนไม่ต่ำกว่า 50,000-60,000 ตัวต่อรัง หากประชากรผึ้งในรังมีน้อยเกินไป ควรเพิ่มประชากรหรือรวมรังผึ้งเข้าด้วยกันโดยเร็วเพื่อให้ทันกับฤดูกาลดอกไม้บาน”

ส่วนด้านการเตรียมพร้อมอุปกรณ์สำคัญ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรแนะว่า ควรเตรียมกล่องเลี้ยงผึ้งพร้อมคอน โดยอาจใช้คอนรวงผึ้งที่ผึ้งงานได้สร้างหลอดรวงแล้ว ประมาณ 10 เท่าของจำนวนรัง แผ่นรังเทียม และคอนรวงผึ้งที่ดึงหลอดรังแล้ว ตลอดจนอุปกรณ์ในการเก็บและสลัดน้ำผึ้ง มีดปาดรวง ถังสลัดน้ำผึ้ง ถังเก็บน้ำผึ้ง ควรตรวจเช็ก ซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมใช้งาน

...

“การสำรวจหาที่ตั้งรังเลี้ยงผึ้งควรเลือกพื้นที่ที่มีพืชให้น้ำหวานขึ้นกระจายตัวเป็นแนวกว้างและหนาแน่น มีความร่มรื่น มีไม้บังลมไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการบินของผึ้ง และมีความชุ่มชื้นเพราะจะทำให้ได้น้ำหวานมากกว่าสวนที่มีการให้น้ำไม่เพียงพอ ที่สำคัญต้องเป็นพื้นที่ไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในรัศมี 1 กิโลเมตร เนื่องจากผึ้งมีความอ่อนไหวต่อสารเคมีสูง และระมัดระวังไม่ให้มีศัตรูธรรมชาติ เช่น นก ต่อ มด เป็นต้น รวมทั้งต้องเป็นพื้นที่ขนส่งสินค้าได้สะดวก”

นายเข้มแข็ง แนะอีกว่า ในการตั้งรังผึ้งควรมีการบันทึกน้ำหนักรัง เพื่อใช้ในการตัดสินใจย้ายรังผึ้ง เมื่อน้ำหนักของรังไม่เพิ่มขึ้นภายใน 2-3 วัน ถ้ามีการใช้สารเคมีในพื้นที่ใกล้เคียงและพบผึ้งตายผิดปกติให้รีบปิดรัง และช่วยระบายความร้อนโดยใช้ตะแกรงมุ้งลวดปิดทางเข้าออกแทนฝาครอบรัง และใช้กระสอบป่านหรือผ้าชุ่มน้ำห่อหุ้มรังตลอดเวลากลางวัน หรือนำผึ้งออกจากบริเวณที่ใช้สารเคมี รวมทั้งให้ตรวจผึ้งแม่รังมีที่วางไข่ และผึ้งงานมีที่เก็บสะสมน้ำผึ้งอย่างเพียงพอ

ในการเก็บน้ำผึ้งควรเลือกเฉพาะคอนน้ำผึ้งที่ปิดฝาหลอดรวงแล้ว 30-70% โดยใช้แปรงปัด หรือเขย่าให้ผึ้งหลุดออกจากคอนให้หมด และใช้มีดปาดฝาหลอดรวงออก นำคอนผึ้งใส่ในถังสลัดน้ำผึ้ง และเหวี่ยงจนน้ำผึ้งหมดหลอดรวง หลังจากนั้นให้นำน้ำผึ้งที่ได้มากรองผ่านตะแกรงหยาบและละเอียด เพื่อกรองเศษไขผึ้งและตัวผึ้งออก จากนั้นใส่ถังบ่มทิ้งไว้ 15 วัน เพื่อให้เศษไขผึ้งและผงละเอียดลอยขึ้นด้านบนแล้วจึงจะสามารถนำน้ำผึ้งไปจำหน่ายต่อไป

ผู้สนใจบริโภคน้ำผึ้งแท้จากเกษตรกรตัวจริงทุกสิ่งปลอดภัย สั่งซื้อได้ผ่านช่องทาง “ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com”.