เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมาเกิดเรื่องน่าเศร้าสลดเมื่อนางสมสกุล สวนไพรินทร์ อายุ 71 ปี ถูกหมาพันธุ์พิตบูลเพศผู้อายุ 2 ปี ชื่อ “ไข่ตุ๋น” กัดจนตายในบ้านย่านถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
เจ้าไข่ตุ๋นกัดแม่เฒ่าจนเลือดท่วมขาดใจตายคาเขี้ยวอย่างน่าสยดสยอง
ทั้งที่แม่เฒ่าคนนี้ก็เป็นคนเลี้ยงดูเจ้าไข่ตุ๋นตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก
หมาพันธุ์พิตบูลฆ่าคนมาเยอะแล้วทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
ความดุร้ายของหมาพันธุ์นี้ขึ้นชื่อไปทั่วโลก ดังนั้นคงไม่ต้องไปหาสาเหตุว่า ทำไมมันจึงได้เกิดคลั่งถึงขนาดฆ่าเจ้าของได้
ที่ถูกต้องควรหาทางป้องกันหมาพันธุ์นี้หรือพันธุ์ดุร้ายอื่นๆไม่ให้ก่อเหตุน่าสลดใจขึ้นอีก
มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ
ฉบับแรก กรมปศุสัตว์มีกฎหมายห้ามนำเข้าหมาพันธุ์พิตบูลตั้งแต่ปี 2542 เพราะถือเป็นหมาพันธุ์ดุร้ายที่ต้องควบคุมพิเศษ
ข้อบกพร่องคือ ไม่มีการห้ามเพาะเลี้ยงในประเทศ จึงเพาะเลี้ยง
แพร่พันธุ์กันอย่างเสรี
ฉบับที่สอง ข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานครเรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ.2548
กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมาทุกชนิดต้องจดทะเบียน มีบัตรประจำตัว และควบคุมไม่ให้ออกนอกสถานที่เลี้ยงโดยปราศจากการควบคุม หากออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องมีสายลากจูง
กรณีหมาควบคุมพิเศษพันธุ์ต่างๆที่ดุร้ายมีข้อกำหนดรัดกุมกว่านั้น
จะต้องเลี้ยงในสถานที่หรือกรงที่หมาไม่สามารถเข้าถึงบุคคลภายนอกและมีป้ายเตือนให้ระมัดระวังโดยสังเกตได้อย่างชัดเจน
การนําออกนอกสถานที่เลี้ยง ต้องใส่อุปกรณ์ครอบปากและจับสายลากจูงห่างจากตัวหมาไม่เกินห้าสิบเซนติเมตรตลอดเวลา
กฎหมายฉบับนี้มีข้อพกพร่องมากมาย เรียกได้ว่า ไม่มีการบังคับใช้ทั้งที่ออกมา 6–7 ปีแล้ว
หากมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง หมาพันธุ์พิตบูลหรือพันธุ์ดุร้ายอื่นๆ จะมีโอกาสทำร้ายคนได้น้อยลง
คดีหมาพันธุ์พิตบูลรายล่าสุดนี้เป็นการฆ่าเจ้าของภายในบ้านก็จริง แต่เมื่อมีการเลี้ยงหมาพันธุ์ดุร้ายเหล่านี้
ต้องถือว่าเป็นภัยกับผู้อื่น
หมาพันธุ์ดุร้ายอาจทำให้เกิดอันตรายกับคนรอบๆบ้านได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นการเสียชีวิตของนางสมสกุลน่าจะเป็นอุททาหรณ์
ให้เราจริงจังกับการควบคุมการเลี้ยงหมาให้เป็นไป ตามกฎหมายโดยเฉพาะพันธุ์ที่ดุร้าย.
...
“เพลิงมรกต”