มหาดไทยลงนาม MOU กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขยายผลจัดตั้ง "ศูนย์แพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์" ทุกภูมิภาค เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ด้านการจัดการภัยพิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

วันนี้ (3 พ.ย. 64) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมผู้บริหาร (ใหญ่) (MC232) ชั้น 3 อาคารบริหาร 2 สำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กับกระทรวงมหาดไทย กับ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นายแพทย์ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และนายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา วิจัย และการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้องค์ประธาน คือ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งทรงมีพระปณิธานให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นหน่วยงานที่มีขนาดกะทัดรัดและมีความคล่องตัวในการช่วยเหลือประชาชน เช่นเดียวกับพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่มีพระราชประสงค์ และพระประสงค์จะดูแลประชาชนให้มีความสุข พ้นจากความทุกข์ สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ในการดูแลประชาชนทุกคนในประเทศนี้ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ปลอดจากโรคภัย อย่างไรก็ตามในช่วงวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่ากลไกกระทรวงมหาดไทยในท้องที่และท้องถิ่นต่างๆ เป็นผู้นำในการดูแลประชาชนในทุกๆ เรื่อง โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ขับเคลื่อนเรื่องการจัดหาวัคซีน โดยประสานกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกของกระทรวงมหาดไทย 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เน้นย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ มีเป้าหมายประการสำคัญที่สุด คือ "เพื่อประชาชนและสังคมไทย" สิ่งที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้การสนับสนุน คือ การให้ความรู้ เพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านต่างๆ งานวิจัย โดยจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะในท้องถิ่น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในวันนี้จะนำไปสู่การบูรณาการในเรื่องต่างๆ ก่อให้เกิด "ศูนย์ภัยพิบัติ" ที่มีศักยภาพสูงในการช่วยพัฒนาบุคลากรด้านต่างๆ ซึ่งจะเป็นก้าวที่สำคัญในการช่วยดูแลประชาชนได้อย่างดีขึ้น และเป็นระบบมากขึ้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ได้กรุณาให้การสนับสนุนกระทรวงมหาดไทยมาโดยตลอด เพื่อยกระดับการทำงาน ในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้พี่น้องประชาชน ในยามปกติและภาวะฉุกเฉินหรือเกิดภัยพิบัติ กระทรวงมหาดไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย ในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดตั้ง "ศูนย์ภัยพิบัติ" ซึ่งเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ในการที่จะเสริมศักยภาพความชำนิชำนาญความคล่องตัวที่ถูกต้องในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่จะต้องเผชิญเหตุที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอนาคต โดยเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา เช่น ปี 2548 ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์สึนามิ ที่เราไม่มีความรู้ในการรับมือเหตุการณ์ เราไม่มีประสบการณ์การเรียนรู้จากการฝึกซ้อมที่เสมือนจริง เวลาเราฝึกซ้อมภัยต่างๆ เราใช้จินตนาการเป็นหลัก แต่เมื่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้กรุณาในวันนี้ ทำให้เรามีความหวังว่าเราจะมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นผู้ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับ ซึ่งในส่วนของศูนย์ภัยพิบัตินั้น ในระยะสั้น ควรมีทุกภูมิภาค ทั้งภาคกลาง เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และในอนาคต จะได้ขยายผลความร่วมมือไปสู่การจัดตั้งศูนย์เขตทั้ง 18 เขตตามกลุ่มจังหวัด เพื่ออบรมเจ้าหน้าที่และยกระดับเป็นศูนย์ที่เชี่ยวชาญภัยพิบัติตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่ ซึ่งจะทำให้มีคุณูปการให้กับพี่น้องประชาชนมากขึ้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า ประการถัดมา ผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งทำให้กลไกกระทรวงมหาดไทยสามารถขับเคลื่อนในเรื่องความร่วมมือครั้งนี้เผยแพร่ขยายผลองค์ความรู้ไปสู่โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ตั้งอยู่ในทุกจังหวัด รวมถึงโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อจะได้เสริมสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ การใช้ชีวิตให้กับเด็กตั้งแต่เด็กเล็ก ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา ซึ่งจะได้พิจารณาร่วมกันในการส่งเสริมด้านการศึกษาเพื่อให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอีกเรื่องที่สำคัญที่เป็นการสนับสนุนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คือ การป้องกันภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ช่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในด้านการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้สังคมเกิดการเรียนรู้ และทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพราะโรคนี้ เมื่อเป็นแล้วรักษาไม่ได้ การป้องกันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และยังเป็นเรื่องมนุษยธรรมของมนุษย์ที่มีกับสุนัขจรจัดและแมวจรจัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะได้ขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ซาบซึ้งและรำลึกนึกถึงความดีที่ทางราชวิทยาลัยได้จัดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ได้มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนได้เร็วขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะต้องเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการเกื้อหนุน เกื้อกูล เพื่อให้ประชาชนมีความสุข สอดคล้องกับความต้องการของกระทรวงมหาดไทย ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้เกิดผลดีกับพี่น้องประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"การลงนามในวันนี้จะเป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน อย่างประมาณการไม่ได้และไม่มีที่สิ้นสุด" นายสุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กับกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและประสานความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านการศึกษาและฝึกอบรมด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์แพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามพระปณิธานในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี.