เปิดประเทศวันแรกสุดคึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เที่ยวไทยผ่านสนามบินต่างๆทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ไร้ปัญหา บอกสุดดีใจที่ได้กลับมาเที่ยวไทยแบบไม่ต้องกักตัว ส่วนการเปิดเทอมวันแรก แม้ยังไม่เต็มร้อย ต้องปฏิบัติตามมาตรการ สธ.เคร่งครัด แต่สร้างรอยยิ้มให้เด็กๆที่ได้กลับมาเจอเพื่อนอีกครั้ง ขณะที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังเยอะ มี 10 จังหวัดต้องเฝ้าระวัง หลังพบคลัสเตอร์ผุดอีก ด้าน สธ.ห่วงคนลักลอบเข้าไทยนำเชื้อมาเพิ่มความเสี่ยง ได้แต่วอนประชาชนช่วยสอดส่อง ขณะเดียวกัน ศปก. ศบค.สั่งทุกหน่วยงานจับตาการเปิดพื้นที่ของ กทม. ต้องให้ทำตามมาตรการเคร่งครัด เหตุเปิดให้นั่งดื่มได้ถึง 3 ทุ่ม ผู้ว่าฯ กทม.แนะ 2 ทางเลือกหากดื่มไม่หมดให้กระดกหรือเททิ้ง
ประเดิมวันแรกของการเปิดประเทศและเปิดเรียน ผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย แม้ยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 รายวันยังพุ่งกว่า 8 พันคน ตายอีก 55 ศพ และ 5 จังหวัดภาคใต้การแพร่ระบาดยังไม่นิ่ง
เปิด ปท.วันแรกเข้าไทย 61 เที่ยวบิน
...
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้าไทย โดยเที่ยวบินแรกเป็นเที่ยวบินที่ NH 805 จากสนามบินโตเกียวนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น มีผู้โดยสาร 43 คน เป็นคนไทย 32 คน และชาวต่างชาติอีก 11 คน ทั้งหมดถูกตรวจคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยวันที่ 1 พ.ย.มีทั้งหมด 61 เที่ยวบิน ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินจากยุโรป เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 2,300 คน และคนไทยเดินทางกลับอีกบางส่วน รวมประมาณ 3,000 คน ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย. มีสายการบินต่างชาติทั่วโลกบินเข้าและออกไทย 27 สายการบิน มีผู้โดยสารรวม 15,230 คน ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานการเปิดเรียนวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19
ส่วนใหญ่ลงสุวรรณภูมิ-ภูเก็ต
ด้านสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย. เบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1-5 พ.ย.นี้ มีสายการบินต่างชาติทั่วโลกจะบินเข้าและออกประเทศไทย ทั้งหมด 27 สายการบิน มีผู้โดยสารรวม 15,230 คน มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ประกอบด้วย 1.สายการบินเกาหลีแอร์ไลน์ มายัง ทสภ. 764 คน 2.สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ มายัง ทสภ. 400 คน 3.สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ มายัง ทสภ. และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) รวม 3,737 คน 4.สายการบินเอมิเรตส์ มายัง ทสภ.และ ทภก. รวม 3,417 คน 5.สายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ มายัง ทสภ. 623 คน 6.สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ มายัง ทสภ. 342 คน 7.สายการบินเค.แอล.เอ็ม. รอยัล ดัตช์ แอร์ไลน์ส มายัง ทสภ. 370 คน 8.สายการบินแอร์อินเดีย มายัง ทสภ. 485 คน 9.สายการบินเอเดลไวส์แอร์ มายัง ทภก. 465 คน 10.สายการบินลุฟท์ฮันซ่า เยอรมนี มายัง ทภก. 573 คน 11.สายการบินแอร์ฟรานซ์ มายัง ทสภ.195 คน 12.สายการบินซิป แอร์ โตเกียว มายัง ทสภ.69 คน 13.สายการบินสกู๊ต ไทเกอร์แอร์ มายัง ทสภ.148 คน
ลงสมุย-เชียงใหม่แห่งละไฟลท์
14.สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มายังท่าอากาศยานสมุย 6 คน 15.สายการบินอาเซียน่า แอร์ไลน์ส อิงค์ มายัง ทสภ. 583 คน 16.สายการบินการูด้า อินโดนีเซีย มายัง ทสภ. 27 คน 17.สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ มายัง ทสภ.และ ทภก. 1,315 คน 18.สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค มายัง ทสภ. และ ทภก. 203 คน 19.สายการบินแอลอัล อิสราเอล มายัง ทภก. 227 คน 20.สายการบินเจจู แอร์ มายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ 70 คน 21.สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ มายัง ทสภ. 362 คน 22.สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ มายัง ทสภ. 479 คน 23.สายการบินอีวีเอ แอร์ มายัง ทสภ. 24 คน 24.สายการบินแอโรฟลอต มายัง ทสภ.112 คน 25.สายการบินไชน่า แอร์ไลน์ มายัง ทสภ. 14 คน 26.สายการบินลาว มายัง ทสภ. 95 คน และ 27.สายการบินแอร์อัสตานา มายัง ทภก. 125 คน
โมเดอร์นาลอตแรกมาแล้ว
ส่วนที่เขตปลอดภาษีอากร สนามบินสุวรรณภูมิ เช้าวันเดียวกัน ภญ.สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บ.แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รอง ผอ.องค์การเภสัชกรรม นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี เลขาธิการสมาคมโรงพยาบาลเอกชน รับมอบวัคซีนโมเดอร์นา ลอตแรก จำนวน 560,200 โดส ภายหลังการรับมอบ ภญ.สุนัยนา กล่าวว่า บ.ซิลลิคฯยินดีที่สามารถนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาลอตแรกเข้ามาในวันเปิดประเทศ และจะติดตามกับทางโมเดอร์นาอย่างใกล้ชิดในการส่งมอบลอตต่อๆไป จนครบ 1.9 ล้านโดสในไตรมาส 4 ของปี 2564 ส่วนที่เหลือ 6.8 ล้านโดส จะส่งมอบในไตรมาสแรก ปี 2565
...
ทำประกันให้สูงสุด 1 ล้าน
ขณะที่ ภญ.ศิริกุลกล่าวว่า หลังจากนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะนำตัวอย่างวัคซีนโมเดอร์นาไปตรวจสอบคุณภาพ คาดว่าจะใช้เวลา 3-5 วัน จากนั้น บ.ซิลลิค จะกระจายวัคซีนไปตามโรงพยาบาลต่างๆตามยอดสั่งซื้อ กรณีเกิดอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการฉีดวัคซีนโมเดอร์นานั้น องค์การฯได้ทำประกันไว้กับทิพยประกันภัย โดยกรณีโคม่าหรือเสียชีวิต ได้รับเงินชดเชย 1 ล้านบาท ทุพพลภาพถาวร ชดเชย 5 แสนบาท อาการไข้ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ชดเชยค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 1 แสนบาท โดยจะชดเชยภายใน 90 วัน ภายหลังการฉีด
วัคซีนมีอายุ 7 เดือน
ด้าน นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวผ่านระบบออนไลน์ว่าการจัดหาวัคซีนทางเลือก เป็นการสั่งการของนายก รัฐมนตรีที่ต้องการให้ประเทศไทยมีวัคซีนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และคาดหวังว่าจะทยอยนำเข้าจนครบจำนวนตามที่ได้สั่งซื้อไว้ โดยภายในปี 2564 จำนวน 1.9 ล้านโดส และไตรมาสแรกของปี 2565 อีก 6.8 ล้านโดส รวม 8.7 ล้านโดส สำหรับวัคซีนลอตแรก ที่เข้ามา 560,200 โดส คิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดสั่งซื้อ 5 ล้านโดส มีทั้งโรงพยาบาลเอกชน สภากาชาดไทย โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี จะได้รับการจัดสรรในสัดส่วนร้อยละ 10 ของยอดจอง เช่น รพ.ที่จอง 1 หมื่นโดส จะได้รับ 1 พันโดส รพ.ที่จอง 1 ล้านโดส จะได้รับ 1 แสนโดส เป็นต้น และขณะนี้ประเทศไทยมีการฉีดเข็มกระตุ้นไปแล้ว ดังนั้น ประชาชนที่จองวัคซีนโมเดอร์นาไว้ สามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิ เพื่อดูวันฉีดวัคซีน หรือจะเปลี่ยนวันฉีดหรือโอนสิทธิได้ ซึ่งเรื่องนี้โรงพยาบาลเอกชนทั้งหมดได้เปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถดำเนินการได้ วัคซีนโมเดอร์นาที่นำเข้ามานี้เป็นวัคซีนใหม่ เก็บไว้ได้นาน 7 เดือน
...
ติดเชื้อ 8.1 พัน-ตาย 55 คน
ต่อมา พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบค.แถลงที่ทำเนียบรัฐบาลถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทยประจำวันที่ 1 พ.ย.ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,165 คน แยกเป็นติดเชื้อในประเทศ 8,156 คน มาจากต่างประเทศ 9 คน รวมติดเชื้อสะสม 1,920,189 คน รักษาหาย 9,574 คน รวมสะสม 1,801,702 คน กำลังรักษา 99,227 คน ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 2,221 คน ใช้ท่อช่วยหายใจ 494 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 55 คน ในจำนวนนี้อยู่ใน กทม.มากสุดที่ 10 คน รวมเสียชีวิตสะสม 19,260 คน ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ฉีดได้ 320,719 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 : 141,330 ราย เข็มที่ 2 : 167,820 ราย เข็มที่ 3 : 11,569 ราย รวมฉีดสะสม (28 ก.พ.-31 ต.ค. 2564) 75,710,277 โดส
เฝ้า 10 จังหวัดติดเชื้อสูง
สำหรับ 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 625 คน นครศรีธรรมราช 539 คน สงขลา 476 คน ปัตตานี 448 คน เชียงใหม่ 378 คน นราธิวาส 351 คน ตรัง 295 คน ยะลา 290 คน ชลบุรี 259 คน และสมุทรปราการ 249 คน ทั้งนี้ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุว่า ภาพรวมของทั้งประเทศทุกพื้นที่ถือว่าตัวเลขการติดเชื้อลดลง รวมไปถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กระทรวงสาธารณสุขยังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา เชียงใหม่ ตาก นครศรี ธรรมราช ระยอง จันทบุรี และขอนแก่น เนื่องจากยังพบการติดเชื้อสูงอยู่ ขณะเดียวกันพบคลัสเตอร์ใหม่หลายแห่ง อาทิ พบผู้ติดเชื้อจากบุญบั้งไฟที่ จ.หนองคายและเดินทางข้ามไปยัง จ.อุดรธานี คลัสเตอร์งานแต่งที่ จ.เชียงใหม่ คลัสเตอร์แคมป์คนงานที่ จ.ชลบุรี นครนายก เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์โรงเรียนและวิทยาลัยที่ จ.เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน คลัสเตอร์แรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองที่ จ.กำแพงเพชร และพิจิตร จึงฝากผู้ที่จัดงานต่างๆให้เข้มข้นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งการคัดกรองผู้ร่วมงานและจัดสถานที่ให้มีระยะห่าง
...
ห่วงลอบเข้าไทยนำเชื้อมาด้วย
จากนั้น เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 เพิ่มเติมว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศยังพบผู้เดินทางทางบก ที่ลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติและติดเชื้อ เป็นความเสี่ยงเกิดคลัสเตอร์ระบาดได้ ต้องขอความร่วมมือ ประชาชนช่วยสอดส่อง รวมถึงผู้ประกอบกิจการที่ต้องการแรงงานต่างด้าว ขอให้ใช้แรงงานที่เข้ามา โดยถูกต้องมีการควบคุมดูแลสุขภาพอย่างดีที่สุด เพื่อทำให้ปลอดภัยระยะยาว ทำให้การเปิดประเทศราบรื่น ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ มีคลัสเตอร์เกี่ยวเนื่องกับตลาดและการสัมผัสในสถานประกอบการสูงสุด คือ การสัมผัสในชุมชนและครอบครัว รองลงมาที่ทำงาน ที่ประชุม สธ.วิเคราะห์ การเชื่อมโยงตลาด และสถานประกอบการ สมมติฐานเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่ย้ายเข้าสู่พื้นที่ จึงมีความสำคัญในการให้แรงงานได้รับวัคซีน และมีมาตรการป้องกันต่างๆ โดยเฉพาะการรับแรงงานต่างด้าวเข้ามา เน้นย้ำหาก เข้ามาอย่างถูกต้องจะลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
บางเรือนจำติดเชื้อจ่อพุ่ง
นพ.เฉวตสรรกล่าวอีกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จังหวัดชายแดนใต้มีท่าทีลดลง เป็นสัญญาณดี ส่วน 67 จังหวัดยังแกว่งตัว หากแยกพื้นที่ต้องเฝ้าระวังติดตามใกล้ชิด 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ตาก ระยอง จันทบุรี ขอนแก่น ส่วนเรือนจำและที่ต้องขัง บางเรือนจำ เริ่มมีรายงานการติดเชื้อ เช่น ที่สุรินทร์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 184 คน วันที่ 1 พ.ย. 328 คน และขอนแก่น วันที่ 31 ต.ค. 95 คน และวันที่ 1 พ.ย. 100 คน กทม. วันที่ 31 ต.ค. 7 คน วันที่ 1 พ.ย. 75 คน ขณะที่การฉีดวัคซีนมี 29 จังหวัดฉีดครอบคลุมประชากรเกินร้อยละ 50 เฉพาะผู้สูงอายุ ที่ฉีดเกินร้อยละ 70 มี 13 จังหวัด ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัด นำร่องท่องเที่ยว ภาพรวมฉีดเข็มแรกไปร้อยละ 79.3 เข็มสอง ร้อยละ 58.8 ขณะที่ 10 จังหวัดที่ยังฉีดวัคซีน เข็ม 1 ต่ำกว่าร้อยละ 50 เฉลี่ยภาพรวมฉีดได้ร้อยละ 39.3 มี จ.นครพนม บึงกาฬ หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ สกลนคร แม่ฮ่องสอน ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อ่างทอง และชัยภูมิ ปลัด สธ.เน้นย้ำให้จัดสรรวัคซีนไปเพื่อเร่งฉีด รวมถึงการฉีดในแรงงานต่างด้าวด้วย
“อัศวิน” หากดีอาจขยายเวลานั่งดื่ม
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยให้นั่งดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน SHA ได้ถึงเวลา 21.00 น. ว่า สมาคมธุรกิจเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ไทยขอให้เพิ่มเวลาเป็น 23.00 น. แต่ ตอนนี้ยังไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไปจริงๆคือถ้าเปิดไปทีเดียว การระมัดระวังจะน้อยลง ถ้าดูจากการประเมิน ทุก 2 สัปดาห์ ที่ให้ดื่มได้ถึงเวลา 21.00 น. หากไม่ดีขึ้น เราต้องคิดกันอีกอย่าง แต่ถ้ามันดีขึ้น ประชาชนหรือ ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือดี เราอาจจะประเมินอีกทีว่า อาจจะขยับให้อย่างที่เขาต้องการ 1-3 ชม. ได้หรือไม่
ดื่มไม่หมดให้กระดกหรือเททิ้ง
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีคนสอบถามเข้ามาว่าหากเลยเวลา 21.00 น.ไปแล้ว จะทำอย่างไรกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สั่งมา ถ้ายังดื่มไม่หมด เหลือในขวด ให้ปิดฝาเอากลับบ้านไป ถ้าอยู่บนโต๊ะ ทำได้ 2 อย่าง 1.กระดกให้หมดไปเลย 2.เททิ้งไปจบ ไม่ใช่เรื่องยากเลย กระดกไม่หมดก็เททิ้งไป ต้องช่วยกัน แล้วเราจะรอดปลอดภัยไปด้วยกันสำหรับร้านอาหารที่เข้าร่วมมาตรฐาน SHA ในขณะนี้มีประมาณ 1,350 ร้านเศษ ฝากไปยังคนที่ทำสถานประกอบการ ให้มาลงทะเบียนกับ SHA ไว้เลย เพราะเราจะได้ ช่วยกันดูแล ส่วนมาตรการและความสะอาดต่างๆ ในส่วนของผับบาร์ คาราโอเกะ รออีกนิด ตอนนี้ยัง ไม่เปิดแน่นอน ขณะที่ กทม.จะเริ่มตรวจตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ตำรวจทหาร กทม.สำนักอนามัย จะไปตรวจร่วมกันทั้ง 50 เขต กระจายออกไปตรวจ เพื่อไปแนะนำประชาชนว่าเมื่อถึงกำหนดเวลาแล้วขอให้เลิกดื่ม คืออย่าได้ทำให้มันเกินเลย ถ้ามันดีขึ้น เราก็ขยายไปเรื่อยๆ สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมขอรับมาตรฐาน SHA ยื่นเรื่องที่ ททท.จะเป็น ผู้ช่วยตรวจสอบ คนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้รีบไปลง ใช้เวลาไม่นาน
ศปก.ศบค.สั่งจับตาเปิด กทม.
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุมศูนย์ ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ที่มีรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะ รอง ผอ.ศปก.ศบค.เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุม ติดตามความพร้อมในแต่ละพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และมอบหมายให้หน่วยงานราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองเข้า ไปตรวจสอบความพร้อมกิจกรรมและกิจการในพื้นที่ กทม. เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และการประชุม ศปก.ศบค.วันที่ 2 พ.ย. จะมีการหารือร่วมกับภาคธุรกิจ ด้านการท่องเที่ยว เพื่อกำชับถึงมาตรการและข้อปฏิบัติตามที่ ศบค.กำหนด โดยเฉพาะการเปิดพื้นที่สีฟ้าที่จำเป็นต้องเข้มข้นในมาตรการเฝ้าระวัง
“ตรีนุช” ตรวจเปิดเรียนสมุทรสาคร
วันเดียวกัน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาเพื่อติดตามความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2 และการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดย น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์สมุทรสาครและโรงเรียนสมุทร สาครวิทยาลัย ภาพรวมโรงเรียนที่แจ้งขอเปิดเรียนในรูปแบบปกติ หรือ onsite เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โรงเรียนแต่ละแห่งมีมาตรการและแผนเผชิญเหตุไว้เป็นอย่างดี โดยโรงเรียนใน จ.สมุทรสาคร แจ้งเปิดเรียน on site 3 แห่ง ในจำนวนนี้นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับวัคซีนครบทุกคนแล้ว
คาด 15 พ.ย.เปิดได้เพิ่ม
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ มีโรงเรียนสังกัด สพฐ.แจ้งเปิดเรียน 12,000 แห่ง จากทั้งหมด 35,000 แห่ง และจะทยอยเปิดเรียนมากขึ้นตามความพร้อมของจังหวัดและสถานศึกษาในวันที่ 15 พ.ย. โดย ศธ.ไม่เน้นว่าจะต้องเปิดเรียนได้จำนวนกี่แห่ง แต่เน้นความพร้อมตามมาตรการความปลอดภัยเป็นหลัก ตนเชื่อมั่นว่ามาตรการเปิดเรียนที่ ศธ.ทำร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีความเข้มข้นในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 1 พ.ย.นี้ โรงเรียนเปิดเรียนพร้อมกับการเปิดประเทศใน 17 จังหวัด ขอให้ผู้ปกครองทุกคนมั่นใจว่า เรามีมาตรการและแผนเผชิญเหตุที่เข้มข้นเตรียมการไว้อย่างดี รวมถึง ศธ.มีคณะทำงานมอนิเตอร์ข้อมูลการเปิดเรียนใน 5 รูปแบบ คือ onsite onhand ondemand และ onair แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา ส่วนการตรวจ ATK จะไม่ใช่เป็นปัจจัยชี้วัดของการเปิดเรียน แต่จะใช้คัดกรองกับสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ดังนั้น หากพบว่ามีนักเรียนติดเชื้อโควิดจะเป็นการปิดเฉพาะห้องเรียนนั้น และจะไม่มีการปิดโรงเรียนอีกแล้ว เราจะต้องอยู่กับโรคนี้ให้ได้เนื่องจากทั่วโลกและไทยอยู่กับเชื้อโควิดมากว่า 18 เดือนแล้ว
เปิดเรียนวันแรกคึกคัก
สำหรับบรรยากาศวันแรกของการเปิดเทอม 2 ของปีการศึกษา 2564 ที่มีโรงเรียนทั่วประเทศทยอยเปิดเรียนแบบออนไซต์หรือให้นักเรียนกลับมาเรียนที่โรงเรียนตามปกติ หลังจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์มาตลอดเทอมแรก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงเรียนทุกแห่งที่เปิดเรียนมีนักเรียนเดินทางมาถึงโรงเรียนแต่เช้าด้วยอาการดีใจที่ได้กลับมาเจอเพื่อนในโรงเรียนอีกครั้งและยึดมาตรการป้องกันโรคอย่างเต็มที่ อาทิ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีโรงเรียนเปิดเรียน 1,290 แห่ง จากทั้งหมด 1,685 แห่ง โดยที่โรงเรียนสุขานารี ถนนโพธิ์กลาง บรรยากาศคึกคัก ผู้ปกครองทยอยนำบุตรหลานไปส่งหน้าโรงเรียน โดยครูผู้ปกครองและเด็กนักเรียนต่างแสดงความดีใจที่ได้กลับมาเรียนที่โรงเรียน แม้ผู้ปกครองบางคนยังกังวลจะเกิดคลัสเตอร์อยู่บ้าง แต่เชื่อว่าการให้ลูกหลานกลับมาเรียน จะเกิดประโยชน์กับเด็กมากกว่าเรียนออนไลน์
นครสวรรค์นำร่องเรียนแค่ 7 แห่ง
ด้านนายเพชรรัตน์ นิ่มพันธุ์ ศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครสวรรค์ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ปกครอง เห็นตรงกันให้เปิดการเรียนการสอนแบบ on site ในสถานศึกษาควบคู่ไปกับการเรียน Online ดังนั้นในวันที่ 1 พ.ย.จึงเปิดเฉพาะที่จำเป็นต้องสอบแข่งขันและเลื่อนระดับ มีโรงเรียนเปิดนำร่อง 7 แห่งคือ โรงเรียนนครสวรรค์ เปิดสอนชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีนครสวรรค์ เปิดสอนชั้น ม.6 โรงเรียนนวมินทรา ชูทิศมัชฌิม เปิดสอนชั้น ม.6 โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ เปิดสอนชั้น ม.4/ม.5/ม.6 โรงเรียนวัดวรนาถบรรพต เปิดสอนชั้น ม.4/ม.5/ม.6 โรงเรียนวัดจอมคีรีนาคพรต เปิดสอนชั้น ม.4/ม.5/ม.6 โรงเรียน กีฬาจังหวัดนครสวรรค์ เปิดสอนชั้น ม.1-ม.6
นทท.ต่างชาติเข้าไทยเพียบ
ส่วนบรรยากาศการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่หากมาจาก 63 ประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค.อย่างเคร่งครัด เริ่มวันที่ 1 พ.ย.เป็นวันแรก โดยที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เที่ยวบินแรกที่มาถึงเมื่อเวลา 00.25 น.ที่ผ่านมา เดินทางจากสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวมา 43 คน จากนั้นตลอดช่วงเช้า มีเที่ยวบินส่วนใหญ่เดินทางมาจากทวีปยุโรป อาทิ เยอรมนี อังกฤษ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและดีใจที่ได้เดินทางมาประเทศไทยอีกครั้ง ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันกลุ่มหนึ่งเปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวไทยเปิดประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว จึงรวมกับเพื่อน 4 คน ซื้อตั๋วเดินทางมาท่องเที่ยวไทย ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวในไทย ด้าน พล.ท.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (ศปม.ทย.) หรือ EOC เปิดเผยว่าในวันนี้มีเที่ยวบินจากต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 60 เที่ยวบิน โดยทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านและเมื่อผู้โดยสารผ่านกระบวนการต่างๆในสนามบินแล้ว ต้องไปพบตัวแทนโรงแรมที่ผู้โดยสารจองมาล่วงหน้า บริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 แล้วโรงแรมดังกล่าวนำผู้โดยสารขึ้นรถที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ ณ จุดที่กำหนด เพื่อนำไปยังที่พักและดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
รถโดยสารไม่พอทำโกลาหล
ต่อมานายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า การเปิดประเทศวันแรกที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว เกิดปัญหาโกลาหลมากเรื่องรถรับผู้โดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังพัทยา มีจำนวนไม่เพียงพอ เพราะสนามบินกำหนดให้เป็นรถมาตรฐาน SHA PLUS คนขับต้องฉีดวัคซีนแล้ว และเฉพาะรถป้ายเขียวและป้ายเหลืองเท่านั้น ถ้าเป็นคนละครอบครัวต้องแยกรถคนละคัน นอกจากจำนวนรถไม่เพียงพอ แล้วยังขึ้นราคาจากเดิมสนามบินสุวรรณภูมิ-พัทยา รถเก๋งราคา 1,400-1,500 บาท เพิ่มเป็น 2,300-2,500 บาท ในวันที่ 5 พ.ย.นี้จะหารือกับขนส่งจังหวัดชลบุรีเพื่อหาทางแก้ไข
เปิดประเทศวันแรกผ่านด้วยดี
จากนั้นเวลา 16.15 น.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์หลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งร่วมประชุมออนไลน์กับผู้บริหารการท่าอากาศยาน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของการท่าอากาศยานแห่งประเทศ ไทย (ทอท.) ทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศ ยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวชาว ต่างชาติที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันแรก เป็นไป ตามแผนที่วางไว้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาได้รับ ความสะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น แต่ยังอยู่ในมาตรการสาธารณสุขสร้างความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
บินเข้าออก ทสภ. 260 ไฟลท์
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) กล่าวว่า ปริมาณจราจรทางอากาศ ณ วันที่ 1 พ.ย มีสายการบินแจ้งทำการบินประมาณ 260 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 91 เที่ยวบิน แยกเป็นเที่ยวบินขาเข้า 40 เที่ยวบิน ขาออก 51 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 169 เที่ยวบิน แยกเป็นเที่ยวบินขาเข้า 84 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 85 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเดินทางมาจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 20,083 คน เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 6,613 คน แยกเป็นผู้โดยสารขาเข้า 2,424 คน (ชาวต่างชาติ 1,534 คน และชาวไทย 890 คน) ผู้โดยสารขาออก 4,189 คน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 13,470 คน แยกเป็นผู้โดยสารขาเข้า 6,690 คน ผู้โดยสารขาออก 6,780 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้โดยสารรายใดมีอุณหภูมิสูง
ต่างชาติยิ้มร่าเข้าเที่ยวภูเก็ต
ขณะที่บริเวณประตูทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข 11 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผู้บริหารพร้อมด้วยพนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตและเจ้าหน้าที่สายการบินร่วมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์ตามมาตรการเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว (Test&go และ Sandbox) ของสายการบิน Edelweiss เที่ยวบินที่ WK050 เส้นทางการบิน ZHR-HKT (ซูริก- ภูเก็ต) ซึ่งนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 229 คน มาท่องเที่ยวและพักผ่อนในภูเก็ต ท่ามกลางรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้มีโอกาสเดินทางมายังภูเก็ต แบบไม่ต้องมีการกักตัว 7 วันหรือ 14 วันอีกต่อไป โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่สีฟ้า สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ ไปท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ