ททท.คัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานมอบรางวัลกินรี 185 รางวัล รับรองคุณภาพและบริการที่ดี ส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว สนับสนุนการเปิดประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงพฤติกรรมการเดินทางที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ขณะที่เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2564 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 13 ประจำปี 2564 (Thailand Tourism Awards 2021) หรือรางวัลกินรี ให้กับผู้ประกอบการ องค์กร และชุมชนท้องถิ่น ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งสิ้น 185 รางวัล เป็นรางวัลรับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
“ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ต้องมีการรักษามาตรฐานและพัฒนาศักยภาพให้เทียบเท่าสากล เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย และจะช่วยผลักดันให้มีการยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากล รองรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ในการท่องเที่ยวรูปแบบวิถีใหม่ ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19”
โดยเฉพาะในปีนี้ได้เพิ่มเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นการท่องเที่ยวสีขาว ที่มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการรักษาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายกฤป โรจนเสถียร ประธานและประธานบริหาร ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่ลแนล เฮลท์ รีสอร์ท เปิดเผยว่า ชีวาศรม หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม Thailand Tourism Gold Awards สาขาเวลเนส รีทรีต หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกสอดคล้องกับปรัชญาหลักของชีวาศรม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการให้บริการลูกค้าที่ให้บริการเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต สร้างสมดุลของร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ชีวาศรม ได้รับมาตรฐาน SHA PLUS ตามมาตรฐาน SHA เดิม เพิ่มด้วยเงื่อนไขที่พนักงานได้รับการฉีดวัคซันโควิด-19 แล้วไม่ต่ำกว่า 70%
“การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ในพื้นที่หัวหินรองรับได้ 2 กลุ่ม คือ 46 ประเทศที่ไม่ถูกกักตัว ส่วนประเทศอื่นๆ สามารถเข้ามาในพื้นที่หัวหินได้ ในฐานะเป็น 1 ใน 17 จังหวัดสีฟ้า โดยต้องอยู่ในพื้นที่ 7 วันก่อนไปพื้นที่อื่นของประเทศได้ โดยรายชื่อประเทศที่ไทยเปิดรับล้วนเป็นกลุ่มลูกค้าของชีวาศรม ซึ่งส่วนใหญ่จะมาซ้ำ 50%”
ขณะเดียวกัน ชีวาศรมเห็นด้วยกับ ททท.ที่จะปรับโครงสร้างของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยจากการเน้นจำนวนของนักท่องเที่ยว มาเป็นการลดจำนวนลงและเจาะตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพเพิ่มขึ้น เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรของไทย ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า น้ำ น้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณ 358 บาทต่อคนต่อวัน
ถ้าดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีต่างชาติเข้ามาในไทย 39.92 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 1.9 ล้านล้านบาท หากในปี 2565 ที่ ททท.วางเป้านำรายได้กลับมาให้ได้ 50% ของปี 2562 บนจำนวนนักท่องเที่ยว 11.58 ล้านคน จะต้องให้ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยจากเฉลี่ย 49,700 บาทต่อทริป เพิ่มขึ้นเป็น 82,576 บาทต่อทริป ถ้านำมาเทียบกับลูกค้าของชีวาศรม มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 30,000 บาท ส่วนใหญ่จะมา 5-7 วัน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายคนละ 150,000-210,000 บาทต่อทริป จึงเชื่อว่าไทยสามารถดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาได้และหลังชาวต่างชาติทั่วโลกต้องอยู่ภายใต้การกักตัวรอการเปิดประเทศ ก็พร้อมที่จะจ่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง
นายคมกริช สันธิญา กรรมการผู้จัดการ โรงแรมในเครือ สันธิญา รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด เปิดเผยว่า โรงแรม สันธิญา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.พังงา ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม Thailand Tourism Gold Awards สาขารีสอร์ท ขณะที่โรงแรมสันธิญา เกาะพะงัน รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.รุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลดีเด่น และได้รับมาตรฐาน SHA PLUS โดยให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัยความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน รวมทั้งมุ่งเน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
“จุดเด่นที่เป็นอันดับ 1 ของโลก สันธิญา เกาะยาวใหญ่ มีห้องพักแบบ Seawater Pool Villa น้ำในสระเป็นน้ำทะเล ซึ่งลูกค้านิยมมาก โดยใช้กระบวนการดึงน้ำทะเลมาใส่ในสระน้ำแทนการใส่เกลือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดการขยะเหลือศูนย์ เน้นใช้วัตถุดิบในรีสอร์ทหรือท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่ง ได้ของสด สะอาด ช่วยส่งเสริมรายได้ให้คนในท้องถิ่น”
ทันทีที่รัฐบาลประเทศเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย. 2564 สถานการณ์ตลาดยุโรป เอเย่นต์ก็เริ่มทำตลาดได้ทันที จากเดิมรอดูก่อนกลัวจะขาดทุน ขณะที่ทาง TUI Nordic จะเริ่มนำเครื่องบินเช่าเหมาลำ ขนาด 250-400 ที่นั่ง จากเดนมาร์ก สวีเดน ฟินด์แลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร มาลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเที่ยวบินแรกในวันที่ 27 พ.ย.นี้ และอีก 4 เที่ยวบินในเดือน ธ.ค. ส่วนลูกค้าของ “สันธิญา” เริ่มจองเข้ามา โดยมากขึ้นอย่างชัดเจนในเดือน ม.ค.-ก.พ.2565
“การประกาศเปิดประเทศแบบไม่กักตัวนักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศ วันที่ 1 พ.ย.2564 สร้างกระแสตอบรับของนักท่องเที่ยว แรงมากกว่าทุกๆ รูปแบบที่รัฐบาลเคยทำมา”
