นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันประชาชนที่วางแผนไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของพื้นที่นั้นๆอย่างเคร่งครัด และคุมเข้มตนเองขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาล ด้วยการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา หมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของร่วมกันกับผู้อื่นให้หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ หากมีความเสี่ยงให้แยกตัวจากผู้อื่น และตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK หากตรวจแล้วไม่พบเชื้อ ให้ตรวจซ้ำ หลังจากตรวจครั้งแรก 3-5 วัน หรือเมื่อมีอาการ

“ขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการต่างๆ ประเมินตนเองตามมาตรการ Thai Stop COVID Plus ซึ่งจากข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564 พบว่า มีสถานประกอบการประเมินตนเองตามมาตรการ Thai Stop COVID Plus จำนวน 265,900 แห่ง ผ่านเกณฑ์ 215,954 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 81.21 ส่วนการประเมินตนเองตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร จำนวน 3,630 แห่ง ผ่านเกณฑ์ 3,468 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 95.54 โดยพนักงานทุกคนที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว ควรได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ราชการกำหนด หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน มีการคัดกรองพนักงานด้วย “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากพบว่ามีอุณหภูมิเกินกว่าที่กำหนด และมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อให้ตรวจด้วย ATK ทันที และสถานประกอบการควรทำความสะอาดจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสร่วม เพิ่มความถี่เมื่อมีผู้รับบริการมากขึ้นอย่างน้อยทุกๆ 1-2 ชั่วโมง” นพ.สุวรรณชัยกล่าว

...