"กระทรวงแรงงาน" ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพ "ผู้ใช้แรงงาน" ที่ประสบอุทกภัยจังหวัดขอนแก่น รวมจำนวน 200 ชุด


เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ใช้แรงงานและชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยจังหวัดขอนแก่น รวมจำนวน 200 ชุด ณ บ้านหัวบึง หมู่ 5 ตำบลดอนช้าง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมีหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" และมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ ได้ระบายลงแม่น้ำชี ทำให้แม่น้ำชีเอ่อล้น และเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนของประชาชนทำในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ท่านสุชาติจึงได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้น และภายหลังจากน้ำลด สำนักงานจัดหางานจังหวัดให้บริการจัดหางานและส่งเสริมการประกอบอาชีพ สำนักงานแรงงานจังหวัดจะจัดโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือ

โดยสนับสนุนค่าตอบแทนรวมถึงวัสดุอุปกรณ์ฝึกอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้อย่างต่อเนื่อง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดจะให้คำปรึกษาด้านสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประสบภัย เรื่องสิทธิประกันสังคม จัดทีมแพทย์และพยาบาลร่วมกับโรงพยาบาลในเครือข่ายให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น

...

รวมทั้งสั่งการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมระดมสรรพกำลังเพื่อช่วยเหลือพี่น้องแรงงานและประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยอย่างเต็มความสามารถ และเร่งฟื้นฟูเยียวยาภายหลังน้ำลดตามภารกิจของแต่ละหน่วย และในวันนี้ท่านมอบหมายให้ผมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดขอนแก่น ตำบลตอนช้างซึ่งแบ่งเขตการปกครองเป็น 8 หมู่บ้าน 1,076 ครัวเรือน มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1, 3, 4, 5, 6 โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ บ้านหัวบึง หมู่ที่ 5 มีประชากรจำนวน 340 คน 120 ครัวเรือน.