ขึ้นชื่อว่า “ถูกหลอก” ไม่ว่าใครเข้มแข็งแค่ไหน ก็ย่อมต้องเจ็บช้ำน้ำใจทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อบริบทแห่งการหลอกลวงนั้น ทำให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งใจ หรือบางครั้งเสียทั้งตัว

ตราบใดที่เรื่องรักๆใคร่ๆยังเป็นปัจจัยที่ทำให้มนุษย์โลกชุ่มชื่นสดใส หญิง-ชายหัวใจสะออนผู้พร้อมจะท้าทายกับความรัก ย่อมต้องมีโอกาสผิดหวังทั้งนั้น ต่างตรงยุคสมัย เมื่อก่อนต้องเห็นหน้าค่าตารู้จักมักจี่ถึงจะหลอกให้รักหลอกให้หลงได้ แต่ในยุคออนไลน์ไม่ต้องรู้หน้า ไม่ต้องรู้ใจ ใช้แค่คารมกับรูปโปรไฟล์หรูๆเท่านั้น

Romance Scam หรือ “หลอกให้รัก” เป็นการหลอกลวงโดยการพูดคุย หยอดคำหวาน ตีสนิทเพื่อเข้ามาจีบ จนเหยื่อหลงเชื่อใจและสุดท้ายมักลงเอยด้วยการถูกต้มตุ๋นหลอกขอเงิน ส่วนใหญ่มิจฉาชีพใช้วิธีส่องโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะเฟซบุ๊ก จากนั้นจะหยอดคำหวานตรงผ่าน Messenger เช่น คุณสวยมาก คุณคือรักแรกพบ เฉลี่ยระยะเวลาตั้งแต่เริ่มหยอดจนสามารถปิดจ็อบหลอกให้เหยื่อโอนเงินได้สำเร็จ เฉลี่ยอยู่ที่ 7-30 วัน

คุณสมบัติหลักของเหยื่อ “หลอกให้รัก” ประการแรกคือต้องมีเงิน มิจฉาชีพจึงมักเล็งเป้าไปที่ไลฟ์สไตล์ที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เหยื่อมักเป็นผู้สูงวัย เกษียณอายุแล้ว สถานะโสด หย่าร้าง เป็นม่าย หรือเป็นสาวหรือหนุ่มใหญ่ที่กำลังมองหารักแท้

ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินชี้ชัดว่า ระหว่างเดือน เม.ย.61-พ.ค.62 มีเหยื่อจากกรณี “หลอกให้รัก” 332 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 193 ล้านบาท

ขณะที่ ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ขยายความเพิ่มว่า ล่าสุดมูลนิธิได้เข้ารับเรื่องเพื่อช่วยเหลือหญิงวัย 57 ปี ซึ่งถูก “หลอกให้รัก” สูญเงินไป 4 ล้านบาทจากการโอนเงินให้ “หนุ่มออนไลน์” 9 ครั้งภายในระยะเวลา 2 เดือน “เคสนี้มูลค่าความเสียหายสูงแต่โอกาสได้เงินคืนแทบไม่มี”

...

ดร.ศรีดาอธิบายว่า โลกออนไลน์เป็นโลกที่พิสูจน์ตัวตนยาก การตามจับคนร้ายซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ เปรียบเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร หนทางป้องกันคือต้องรู้เท่าทันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

ข้อมูลจากดีแทค Safe Internet รวบรวมวิธีจับเท็จคนหลอกลวงไว้ 6 ข้อด้วยกัน ได้แก่ 1. ใช้รูปโปรไฟล์ดูดีมีฐานะ 2.ทักทายด้วยคำหวาน 3.ใช้ภาษาอังกฤษแปลกๆที่ผิดไวยากรณ์ 4.หลีกเลี่ยงการเปิดกล้องหรือพูดคุยแบบเห็นหน้า 5.ขอยืมเงินเพราะมีปัญหาด้วยเหตุผลที่เหยื่อใจอ่อน 6.ส่งอีเมลปลอมให้ใส่ข้อมูลธนาคาร

ส่วนกลอุบายที่พบบ่อย ได้แก่ 1.จะมาแต่งงานที่เมืองไทย ส่งทรัพย์สินมาให้แต่ต้องชำระค่าภาษีก่อน 2.ตัวเองหรือญาติป่วยแต่ประกันยังเบิกจ่ายไม่ได้ 3.ได้รับมรดกเป็นเงินมหาศาลแต่ต้องชำระภาษี 4.ส่งสิ่งของราคาแพงมาให้แต่ติดอยู่ที่ด่านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน 5.เป็นนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยและต้องการให้ร่วมทุนด้วย

ดร.ศรีดา เปิดเผยว่า เคยมีเหยื่อถูกหลอกว่าส่งของมีค่ามาให้แต่ติดอยู่ที่ด่านศุลกากร จากนั้นแก๊งมิจฉาชีพจะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้โอนเงิน 24,000 บาทเพื่อเอาของออก พอโอนไปแล้ว มิจฉาชีพที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่โทร.มาอีก บอกสแกนพัสดุแล้ว พบเป็นเงินจำนวนมากที่คาดว่าจะผิดกฎหมาย แล้วข่มขู่ให้โอนเงินหลักแสนมาให้เพื่อจะได้หลุดจากการถูกสอบสวนในฐานะเป็นผู้รับ กรณีนี้ถือว่าทำเป็นกระบวนการมีหลายคนเกี่ยวข้อง

น่าเสียดายที่เหยื่อถูก “หลอกให้รัก” ส่วนใหญ่ ไม่สะดวกแจ้งความเพราะเป็นคดีที่สร้างความอับอาย ผู้เสียหายเป็นกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป มีฐานะ มีหน้าตาทางสังคม แต่การที่เหยื่อบางคนตัดสินใจเข้ามาขอความช่วยเหลือเพราะถูกข่มขู่ รีดไถ เนื่องจากถูกชักชวนให้มีกิจกรรมทางเพศหน้ากล้องและถูกแอบบันทึกภาพไว้แบล็กเมล์ โดยกรณีนี้เหยื่อเป็นข้าราชการครูเกษียณเพศชาย

ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีเคสการจับกุมแก๊ง Romance Scam ปรากฏเป็นชายผิวสีราว 10 คน โดยพวกนี้จะว่าจ้างคนไทยเปิดบัญชีธนาคารในประเทศเพื่อใช้เป็นช่องทางรับเงินที่ได้จากการหลอกโอน แต่โอกาสในการสืบสาวเพื่อให้ได้เงินกลับคืนมีน้อยมาก และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินผิดกฎหมายด้วย

ส่วนวิธีรับมือไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ Romance Scam ได้แก่ 1.อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากจนเกินไป 2.ตรวจสอบรูปโปรไฟล์ว่านำมาจากที่อื่นหรือไม่ 3.หมั่นถามคำถาม ตั้งสติ ใจเย็น 4.หากมีการนัดพบต้องมีเพื่อนไปด้วย 5.หลีกเลี่ยงการโอนเงินให้ทุกกรณี 6.ระวังตัวเสมอเพราะนักต้มตุ๋นออนไลน์มีทุกที่

แต่หากสุดท้ายถูกหลอกให้เตรียมหลักฐาน เช่น ภาพบทสนทนา รูปโปรไฟล์ผู้กระทำผิด หลักฐานการโอนเงิน และควรเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเดิมๆที่เริ่มต้นจาก “ความอยาก” ของมนุษย์ อยากได้ความรัก อยากได้เงิน เพียงแต่โลกออนไลน์ ทำให้มันเกิดขึ้นได้โดยง่าย บ่อย และขยายวงกว้าง การรู้เท่าทันสื่อออนไลน์จึงเป็นทักษะสำคัญยิ่งของคนยุคนี้ ไม่ว่าจะเพศใด อายุเท่าไร” ดร.ศรีดา กล่าวทิ้งท้าย.

ศุภิกา ยิ้มละมัย