คุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ททท.ตัดสินใจเลื่อนเปิด 5 เมืองท่องเที่ยวรับนักท่องเที่ยวต่างชาติออกไป 1 เดือน จากเดิม 1 ตุลาคม เป็น 1 พฤศจิกายน เพื่อความปลอดภัยของคนไทยเป็นหลักตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพราะ 5 จังหวัดท่องเที่ยวที่กำหนด มีเพียง 2 จังหวัดที่ประชาชนฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% คือ เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.ดอยเต่า) เพชรบุรี (ชะอำ) อีก 3 จังหวัด กรุงเทพฯ ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) ประจวบฯ (หัวหิน) ประชาชนยังฉีดวัคซีนไม่ถึง 70% จึงเลื่อนไปเปิดพร้อมกันวันที่ 1 พฤศจิกายน

ผมเห็นด้วยครับ เรื่องการท่องเที่ยวต้องเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก การเลื่อนออกไปหนึ่งเดือนเพื่อให้ทุกฝ่ายพร้อม ดีกว่ารีบเปิดบนความเสี่ยง

คุณยุทธศักดิ์ บอกว่า ททท.ไม่มีความกังวลในการเลื่อนครั้งนี้ จะเป็นการดีกว่าหากทุกพื้นที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่พร้อมกว่านี้ เท่าที่ตรวจสอบยังมีอีกหลายแห่งที่รอการจัดสรรวัคซีนอีกจำนวนมาก ประกอบกับช่วงเดือนตุลาคมจะมีโปรแกรมกระตุ้นส่งเสริมการตลาดในประเทศอย่างเช่น เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และ ทัวร์เที่ยวไทย ออกมาแล้ว จึงน่าจะเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการได้ระดับหนึ่ง

แต่ เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งภาคเหนือ รับนักท่องเที่ยว ต่างชาติได้

คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวด้านการตลาด เปิดเผยว่า เชียงใหม่ได้ปรับแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเรียบร้อยแล้ว ระยะแรกจะไม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเองจากเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ แต่จะเข้าร่วม “โปรแกรม 7+7” เพื่อ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาอยู่ในภูเก็ตครบ 7 วัน แล้วบินต่อไปยังเชียงใหม่ได้ เนื่องจากวันที่ 1 ตุลาคมนี้ การท่องเที่ยวจะเปิดตัวการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ เพื่อรับฤดูกาลท่องเที่ยว ผู้ประกอบการจึงให้ความหวังกับตลาดคนไทยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในฤดูหนาวมากกว่า

...

ในความเป็นจริง ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงนี้ยังไม่กลับมาแน่นอน ประเทศสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป อังกฤษ ยังขึ้นสีแดงเตือนให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทย ส่วน นักท่องเที่ยวจีน ตลาดหลักของไทย รัฐบาลจีนก็ห้ามคนจีนออกไปเที่ยวต่างประเทศ เน้นการเที่ยวในประเทศเป็นหลัก เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ นโยบายจีน ผมคิดว่าไทยก็ควรนำมาใช้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศก่อน

อย่าเพิ่งไปฝันหวานถึงรายได้ 2 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในอดีต กว่าจะกลับมาคงกินเวลาอีกหลายปี การเดินทางท่องเที่ยวของโลกวันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เน้นให้คนไทยเที่ยวในประเทศดีที่สุด ค่อยๆฟื้นการท่องเที่ยวอย่างมั่นคง ดีกว่าต้องปิดอีกรอบ

สำนักวิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ กว่าจะกลับสู่ระดับก่อนการระบาด อาจต้องใช้เวลาหลายปีจนถึงปี 2568 ปัจจุบันแม้แผนการฉีดวัคซีนจะเร่งขึ้น แต่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จะมีเพียง 150,000 คน และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านคนในปี 2565 คิดเป็น 5% กว่าเมื่อเทียบนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคนในปี 2562 ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาสองเดือนกว่า ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 3 หมื่นกว่าคน ถือว่าน้อยมากๆ แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี

สิ่งสำคัญที่ผมคิดว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะต้องเร่งทำในช่วงนี้ก็คือ ปรับยกระดับธุรกิจการท่องเที่ยวไทยให้สูงขึ้น ให้มีระดับไฮเอนด์มากขึ้น อย่าไปมองที่ตัวเลข 40 ล้านคน แต่ให้มองที่ “รายได้การท่องเที่ยว” เป็นหลัก เพื่อรักษาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวของไทยเอาไว้

การท่องเที่ยวไทย เมื่อฟื้นกลับมาอีกครั้ง ต้องไม่เหมือนเดิม ถ้ายังเหมือนเดิม รับนักท่องเที่ยวราคาถูกจำนวนมาก อนาคตคง ไปต่อยาก.

“ลม เปลี่ยนทิศ”