นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า กรณีการนำขยะติดเชื้อจากผู้ป่วยโควิด-19 ไปเผาในเตาเผาศพอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนเตาเผาชำรุดเสียหายนั้น เนื่องจากการฆ่าเชื้อโรคต่างๆจะต้องใช้ความร้อนสูง ประกอบกับเตาเผาศพไม่มีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ จึงก่อให้เกิดปัญหากลิ่น ฝุ่นละออง ก๊าซพิษ รวมถึงโลหะหนักต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม และการสร้างเตาเผาศพไม่ได้ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงที่จะเผาอย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงไม่ควรนำขยะติดเชื้อไปเผาในเตาเผาศพ

อธิบดี คพ.กล่าวต่อว่า การกำจัดขยะติดเชื้อ ทั้งที่เกิดจากการรักษาตัวที่บ้าน การรักษาตัวในชุมชน หรือศูนย์พักคอยผู้ติดเชื้อก่อนส่งต่อ ต้องประสานเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลมาเก็บรวบรวมเพื่อนำไปเผาในเตาเผาที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ซึ่งจะมีห้องเผาที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 760 องศาเซลเซียส และมีห้องเผาควันด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 1,000 องศาเซลเซียส มีการควบคุมมาตรฐานอากาศเสียที่ปล่อยออกจากเตาเผาตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จากปัญหาขยะติดเชื้อล้นระบบ ซึ่งตกค้างอยู่ที่เตาเผาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และของเอกชนหน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมอนามัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน กำลังปรับเกณฑ์ภาครัฐอย่างเร่งด่วน ให้สามารถนำขยะติดเชื้อล้นระบบไปกำจัดในเตาเผาโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะมูลฝอยเป็นเชื้อ เพลิงชั่วคราวได้.